- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 4 hours ago
- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
งดเหล้าเข้าพรรษา มีเงินออม ชีวิตดีมีคุณภาพทำได้จริง
“ผมดื่มเหล้ามาตั้งแต่อายุ 20 ปี ดื่มเหล้ามาตลอด คนในหมู่บ้านไม่มีใครชอบ ไม่มีใครไว้ใจ งานการก็ไม่ได้ทำ หลังจากพ่อป่วยจึงได้เลิกหักดิบ เลิกดื่ม…..จนกระทั่งมาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีเงินเดือนประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อเดือน ทำให้มีเงินเก็บบ้าง ผมกับน้องช่วยกันเก็บเงิน 8 ปีแรกเรามีบ้าน หลังจากนั้นเราก็มีรถป้ายแดงตามมา”
จากประสบการณ์ของนายชาคริต จินะคำปัน อายุ 42 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านเกาะกลาง ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ออกมาถ่ายทอดประสบการณ์ของการตกเป็นทาสน้ำเมามาตั้งแต่อายุ 20 ปี ในช่วงนั้นไม่สามารถทำงานอะไรได้เลยจนได้ฉายาเป็นขี้เมาหลวง นอกจากดื่มเหล้าไปวันๆ เงินไม่มีก็ใช้วิธีเซ็นต์กับร้านค้าแล้วให้พ่อเป็นคนจ่ายใช้หนี้ค่าเหล้า ซึ่งชาคริตบอกว่าใน 1 วันเขาใช้เงินหมดไปกับค่าเหล้าถึงวันละ 500 บาท หรือประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ดื่มมาเป็นเวลา 5 ปี หากคิดไปเงินรวมระยะเวลาที่ดื่มเหล้า ชาคริตหมดเงินไปเป็นจำนวนมากถึง 900,000 บาทเลยทีเดียว
จนกระทั่งถึงจุดพลิกผันของชีวิต พ่อของชาคริตล้มป่วย ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีเงิน ชาคริตจึงใช้วิธีการหักดิบเลิกดื่ม จาก 1 เดือน เป็น 3 เดือน เป็นปี และจนเลิกได้ตลอดชีวิต เมื่อร่างกายไม่มีแอลกอฮอล์แล้ว สุขภาพกลับมาดี ได้รับโอกาสจากชุมชนให้มาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีเงินเดือน 8,000-9,000 บาท ตั้งใจเก็บเงินออมไว้เดือนละ 2,000 บาท โดยชาคริตได้เก็บเงินออมร่วมกับน้องชายอีกจำนวน 8,000 บาท เป็นเวลา 8-9 ปี เขาและน้องชายสามารถซื้อบ้านได้ หลังจากนั้นต่อมาก็เป็นรถป้ายแดง จากน้ำพักน้ำแรงของทั้งสองคนได้สร้างความภูมิใจให้กับคนในครอบครัวและเป็นตัวอย่างที่ดีกับคนในชุมชน ที่สามารถเลิกเหล้าได้แล้วออมเงินจนกระทั่งซื้อบ้าน ซื้อรถ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ชีวิตของชาคริต คือตัวอย่างหนึ่งของคนติดเหล้าที่ไร้อนาคต กลายมาเป็นคนเลิกเหล้าที่รู้จักเก็บเงินออมจนสามารถซื้อสินทรัพย์และมีหน้าที่การงานเลี้ยงตัวเองได้ ตรงกับแคมเปญใหม่”งดเหล้า ได้คุณคนใหม่” ในช่วงฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา 2567 “เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ใน 90 วัน” เพื่อชักชวนให้คนที่ยังดื่มหันมาใส่ใจสุขภาพในเบื้องต้นด้วยการงดเหล้าเข้าพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน
คนไทยหมดเงินไปกับค่าเหล้าเฉลี่ยคนละ 1,500 บาทเพื่อสร้างความสุขเทียม
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัขรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการประเมินโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2566 โดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) พบว่า มีผู้เปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา 10.2 ล้านคน จากจำนวนผู้ที่ดื่มทั้งหมด 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 7.7 แสนคน แบ่งเป็น ผู้งดดื่มตลอดพรรษา 21.3% ผู้ที่งดบางช่วง 9.1% และผู้ที่ไม่งดแต่ลดการดื่มลง 10.5% โดยกลุ่มตัวอย่าง 66.3% ระบุว่าได้รับผลดีจากการลด ละ เลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา โดยเฉพาะสุขภาพร่างกายดีขึ้น สุขภาพจิตใจดีขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยคนละ 1,506.97 บาท รวมทั้งประเทศประหยัดได้ราว 4.2 พันล้านบาท สำหรับการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ สสส. ใช้แนวคิดขับเคลื่อนงานที่เชื่อมโยงสู่มิติทางสุขภาวะ Healthy Sobriety สังคมสุขปลอดเหล้า จึงขอใช้โอกาสช่วงเข้าพรรษา 90 วัน เชิญชวนให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงตัวเอง ภายใต้แคมเปญ “งดเหล้า 3 เดือน ได้คุณคนใหม่” โดยเริ่มจากการลด ละ และนำไปสู่การเลิกดื่มถาวร ฟื้นกาย ฟื้นใจ ฟื้นความสัมพันธ์ ถือเป็นการตัดโอกาสความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายอีกหลายชนิด
นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า การดื่มสุราเป็นสารเคมีอย่างหนึ่งที่สร้างความสุขชั่วครู่หรือความสุขเทียมที่เกิดขึ้นเราอาจใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าสังคม หลายคนอาจดื่มเป็นประจำจนกระทั่งกลายเป็นติด สำหรับโอกาสในช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนเป็นโอกาสที่เราจะได้ฟื้นตับ คืนพลังชีวิต ซึ่งมันจะกลายเป็นการฟื้นกาย ฟื้นใจไปด้วย โดยใช้โอกาส 3 เดือนนี้ทดลองว่าเราจะมีความสุขที่เกิดจากภายในโดยไม่ต้องพึ่งพาสุราได้หรือไม่ และในช่วงนั้นเองสุขภาพของเราจะดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง มีเวลาไปออกกำลังกาย ใช้เวลากับครอบครัวที่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของการงดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งจะเป็นการทำบุญไปด้วยการลด ละ เลิกอบายมุขตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และตับกลับมาฟื้นฟูได้ และถ้าเราเห็นว่าเป็นความสุขที่แท้จริงอาจนำไปสู่การเลิกเหล้าถาวรได้ในอนาคต
สำหรับคนที่งดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่สนใจจะดูแลตับของตนเองไม่ให้กลายเป็นโรคตับแข็ง มะเร็งตับ หรือไขมันแทรกในตับ หรือบางส่วนทำให้เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก เส้นเลือดในสมองตีบได้ด้วย และวันนี้ก็มีกองทุน กอช.เข้ามาร่วมและปีนี้มีแคมเปญที่เปลี่ยนจากเงินค่าเหล้าที่เป็นค่าใช้จ่ายที่อาจจะหายไปเลย กลายเป็นเงินออมที่สามารถจะออกได้ในระยะยาว สามารถเป็นบำนาญในช่วงเกษียณได้
ชูโมเดล SoBrink Soclub ทางเลือกช่วยคนเลิกเหล้าฟื้นฟูตับด้วยสมนุไพร
นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2567 นี้ สคล. ร่วมกับหน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน กว่า 3,500 แห่ง ในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ สร้างการรับรู้และเชิญชวนงดเหล้าเข้าพรรษา รวมทั้งตั้งจุดลงนามปฏิญาณตน โดยมีโปรแกรม Sober CHEERs ซึ่งเป็นการจัดเก็บระบบฐานข้อมูล และติดตามผู้ที่เข้าร่วมบวชใจงดเหล้า ที่สมัครใจร่วม ลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา โดยใช้โมเดล SoBrink Soclub มีชมรมคนหัวใจเพชร 40 แห่งทั่วประเทศ ร่วมกันรณรงค์สร้างความเปลี่ยนแปลง ร่วมงดเหล้า ออมเงิน ลดหนี้ เพิ่มสุขให้ครอบครัว และกลุ่มพลังหญิงหัวใจเพชร 80 แห่งทั่วประเทศ ร่วมรณรงค์สร้างการเปลี่ยนแปลงด้าน เสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต ด้วยสมุนไพรและธรรมชาติบำบัด ให้แก่ว่าที่คนหัวใจเพชร ได้รับประสบการณ์การเป็นคนใหม่ ในช่วง 3 เดือนนี้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาวิทยากรชมรมคนหัวใจเพชร เพื่อถ่ายทอดนวัตกรรม SoBrink Soclub
ทั้งนี้ นวัตกรรม SoBrink Soclub มีกลุ่มเป้าหมายคือ เป็นคนที่ดื่มหนัก รวมทั้งกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ที่ต้องหาตัวช่วยมาทดแทน SoBrink จะเป็นการโชว์ตัวช่วยที่เป็นเครื่องดื่ม และอาหารทดแทน คนที่ดื่มแอลกอฮอล์และต้องการที่จะลด ละ เลิก ช่วงเข้าพรรษา หลายคนต้องการเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วย เช่น สมุนไพร บางตัวมีส่วนช่วยเสริมภูมิในร่างกาย เพิ่มฮอร์โมนความสุข คลายเครียด และบรรยากาศ SoBrink Soclub จะช่วยได้
เลิกเหล้าแล้วอย่าลืมมาออมเงินกับ กอช.
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช. เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง มุ่งสร้างรากฐานการออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ หนี้ครัวเรือน และหนี้ส่วนบุคคล เพราะมีรายจ่ายที่สูงกว่ารายรับ ขาดการวางแผนด้านการเงิน ปัญหาคือไม่มีเงินเก็บ แนวทางการแก้ไข ต้องเสริมทักษะการวางแผนทางด้านการเงิน ให้ความสำคัญในการออมเงิน เก็บทีละเล็ก ทีละน้อยจนเป็นนิสัย จึงอยากแนะนำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้จ่าย โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่จำเป็น และทำลายสุขภาพ ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเงินค่าเหล้ามาเป็นเงินออม เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สสส.และ กอช. ซึ่งการออมจากเงินค่าเหล้า จะให้เขาเลิกทันทีอาจเป็นเรื่องยาก แต่ก็อยากให้ทุกคนออมเงินวันละนิดกับ กอช.และภาครัฐจะให้เงินสมทบทันทีตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ผู้สนใจที่อยากจะออมเงินกับ กอช. ไว้เป็นเงินบำนาญหลังจากเกษียณ สอบถามที่ สายด่วนเงินออม โทร. 02 049 9000
You must be logged in to post a comment Login