วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

การเตรียมตัวสู่โลกหลังความตาย

On August 2, 2024

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  1 ส.ค. 67)

ทุกศาสนามีคำสอนเรื่องโลกหลังความตายเพราะโลกหลังความตายมีจริง แต่การจะไปที่นั่นได้  มนุษย์ต้องผ่านความตายเสียก่อน  ไม่ต่างอะไรจากการมายังโลกนี้ที่มนุษย์ต้องผ่านการคลอดจากครรภ์มารดามาก่อน  ดังนั้น มนุษย์จึงมีความเชื่อในเรื่องนี้มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์  แต่หากความเชื่อในเรื่องนี้ผิดตั้งแต่ต้น  มันจะมีผลต่อชีวิตของมนุษย์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

เท่าที่ผ่านมา  มนุษย์มีความเชื่อในเรื่องโลกหลังความตายแตกต่างกันดังนี้

มนุษย์กลุ่มแรกเชื่อว่าโลกหลังความตายไม่มี  คนกลุ่มนี้เชื่อว่ามนุษย์เกิดมาในโลกนี้เพียงเพื่อกิน นอน ถ่าย  สืบพันธ์และตายไปเหมือนกับการตายของสัตว์ทั้งหลาย  ผลที่ตามมาก็คือมนุษย์ที่ไม่เชื่อในเรื่องนี้จะใช้ชีวิตเหมือนกับคนที่ไม่กลัวกฎหมายและคุกตาราง

มนุษย์กลุ่มที่สองเชื่อว่าโลกหน้ามีจริง  แต่มีความเชื่อที่แตกต่างกันไปอีก

กลุ่มหนึ่งเชื่อว่าเมื่อตายแล้ว  วิญญาณของมนุษย์จะกลับมายังร่างของตัวเองในโลกนี้อีก  ดังนั้น ด้วยความเชื่อเช่นนี้  ในขณะที่มีชีวิต  ฟาโรห์จึงสะสมทรัพย์สมบัติไว้มากมายและเก็บศพของเขาไว้ในสภาพของมัมมี่  ไม่เพียงเท่านั้น  ฟาโรห์ยังสั่งให้ทำมัมมี่สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเขาด้วย เพราะฟาโรห์เชื่อว่าหลังตัวเองตายไปแล้ว  วิญญาณของเขาและของสัตว์ตัวโปรดจะกลับมาเข้าร่างมัมมี่ของตัวเขาและเขาจะได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเสวยสุขในโลกนี้อีกหลังจากตายไป

อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าหลังจากจากตายแล้ว  ตัวเองจะไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง คนจีนมีความเชื่อเช่นนี้มานานแล้ว  ดังนั้น ในขณะที่มีชีวิต  ชาวจีนจะเตรียมโลง เตรียมสถานที่ฝังศพของตัวเอง  ลูกที่กตัญญูจะเตรียมโลงศพให้พ่อแม่  เมื่อตายไปแล้ว  ลูกหลานจะทำพิธีเผาปัจจัยดำรงชีพเช่นบ้าน ตู้เย็น โทรทัศน์ รถยนต์ เสื้อผ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆซี่งทำด้วยกระดาษส่งไปให้บุพการีผู้ล่วงลับของตนด้วยความเชื่อว่าชีวิตในโลกหน้าจะสะดวกสบายหากมีปัจจัยเหล่านี้

ชาวยิว ชาวคริสเตียนและชาวมุสลิมผู้สืบทอดความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวล้วนมีความเชื่อในเรื่องโลกหลังความตายเหมือนกัน  ความเชื่อนี้ถูกเรียกด้วยถ้อยคำที่มาจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังความตาย เช่น วันแห่งการฟื้นคืนชีพ  วันแห่งการพิพากษา  วันแห่งการตอบแทน เป็นต้น

ในอิสลาม  เมื่อมุสลิมได้ยินข่าวการเสียชีวิตของใคร  คัมภีร์กุรอานสั่งให้มุสลิมกล่าวว่า “อินนาลิลลาฮ์ วะอินนา อิลัยฮิรอญิอูน” ซึ่งหมายความว่า “แท้จริง เราเป็นของพระเจ้า และเราจะกลับไปหาพระองค์อย่างแน่นอน”  การพูดเช่นนี้เป็นการเตือนตัวเองว่าวันหนึ่งเราจะกลับไปหาพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของชีวิต

คำพูดเตือนสติดังกล่าวบอกให้รู้ว่าเมื่อวิญญาณของมนุษย์ออกจากร่างไปแล้วจะไม่กลับมาโลกนี้อีก อนาคตของวิญญาณซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงจะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับการกระทำของมนุษย์ที่อยู่ภายใต้คำบงการของวิญญาณ  ดังนั้น วิญญาณจึงต้องรับผิดชอบ   มนุษย์จะขอพรให้ใครเข้าสวรรค์อย่างไรก็เป็นเรื่องของมนุษย์  แต่ผู้ที่จะให้ใครเข้าสวรรค์คือพระเจ้าผู้ทรงสร้างและเป็นเจ้าของสวรรค์

คำสอนของอิสลามมีความชัดเจนว่าคนที่จะเข้าสวรรค์ต้องเตรียมตัวขณะยังมีชีวิตในโลกนี้  และสิ่งที่ต้องเตรียมนั้นมิใช่ทรัพย์สินเงินทองที่เป็นวัตถุ  เพราะชีวิตในสวรรค์ไม่ต้องการปัจจัยยังชีพเหมือนในโลกมนุษย์ที่ต้องทำงานเพื่อให้ได้มันมา  แต่สวรรค์เป็นโลกแห่งการตอบแทน  สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ก็คือ “ความยำเกรงพระเจ้า” นั่นคือ เมื่อพระเจ้าใช้ให้ทำสิ่งใดก็ทำตาม  เมื่อพระเจ้าห้ามสิ่งใดก็งดเว้น


You must be logged in to post a comment Login