วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567

แพทยสมาคมอังกฤษ เตือนรัฐบาลเร่งออกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่งกลิ่น แก้ปัญหาระบาดในเด็กและเยาวชน

On September 3, 2024

แพทยสมาคมอังกฤษ เตือนรัฐบาลเร่งออกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่งกลิ่น แก้ปัญหาระบาดในเด็กและเยาวชน หลัง 10 ปี เด็กอังกฤษสูบบุหรี่ไฟฟ้าพุ่ง 6 เท่า

ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยถึงกรณีที่แพทยสมาคมอังกฤษ เตือนว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในคนอายุน้อย เป็นสัญญาณเตือนภัยคุกคามทางสาธารณสุข พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นหอมทุกชนิด เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน เนื่องจากสำรวจพบว่าอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนใน 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 6 เท่า โดยวัยรุ่นอายุ 11-18 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้า 18% หรือ 980,000 คน สาเหตุของการระบาดมาจากบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้แล้วทิ้ง (disposable) ที่วางขายอยู่ทั่วไป โดยบริษัททำบุหรี่ไฟฟ้ารูปร่างเหมือนขนม บรรจุในกล่องที่มีสีสันฉุดฉาด และกลิ่นหอมที่เด็ก ๆ ชอบ วางขายคู่กับช็อกโกแลตและขนมเด็กรสผลไม้ เป็นการตลาดล่าเหยื่อที่มุ่งเป้าเด็กและวัยรุ่น

“แพทยสมาคมอังกฤษจึงเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งออกกฎหมาย ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นหอม ห้ามใช้รูปภาพและสีสันบนอุปกรณ์สูบและกล่องบรรจุ ร้านขายต้องไม่ให้คนเห็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ขาย และรัฐบาลต้องเร่งจัดงบประมาณสนับสนุนการรณรงค์เร่งให้ความรู้พิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบขายอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งอังกฤษห้ามขายบุหรี่ทุกชนิดแก่เด็กที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี” ศ.พญ.สุวรรณา กล่าว

ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า อังกฤษเป็นประเทศที่บุหรี่ไฟฟ้าขายได้อย่างถูกกฎหมาย ข่าวจากประเทศอังกฤษชี้ให้เห็นว่า แม้อังกฤษจะเป็นประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมยาสูบดีที่สุดในยุโรปและในโลก ทั้งการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะที่ได้ 10 คะแนนเต็ม การควบคุมบุหรี่หนีภาษี การเก็บภาษีบุหรี่มวนและบุหรี่ยาเส้นที่เกือบเท่ากัน การป้องกันการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบโดยบริษัทบุหรี่ และมาตรการอื่น ๆ ตามที่กำหนดโดยอนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ตาม การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนในอังกฤษ ก็ยังรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแพทยสมาคมต้องออกมาเรียกร้องให้มีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า

ศ.นพ ประกิต กล่าวต่อว่า สหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ ได้ออกข้อแนะนำตั้งแต่ปี ค.ศ.2020 ว่า การห้ามนำเข้า ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด เป็นนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าที่ดีที่สุดสำหรับประเทศรายได้น้อยและปานกลาง เนื่องจากเมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ามีผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดี ที่สำคัญประเทศเหล่านี้ ขาดความพร้อมในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในทุก ๆ ด้าน ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย ทรัพยากรในการควบคุมยาสูบ สหพันธ์องค์กรต่อต้านวัณโรคและโรคปอดฯ เน้นว่าอังกฤษมีความสามารถในการกำกับดูแลกฎหมายที่เข้มแข็ง มีสมรรถนะการควบคุมยาสูบที่ยอดเยี่ยมและอยู่ในระยะท้ายของการระบาดของยาสูบ มีสภาพแวดล้อมเฉพาะที่แตกต่างจากประเทศรายได้น้อยและปานกลางส่วนใหญ่ ที่ยังขาดแคลนทั้งทรัพยากรและกลไกในการบังคับใช้กฎหมาย

“ผมจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาให้รอบคอบ ถึงทางเลือกทางนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ที่จะมีข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการวิสามัญที่กำลังพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทบุหรี่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งกฎหมายบุหรี่โลก หรืออนุสัญญาควบคุมยาสูบฯ ห้ามภาคีสมาชิก ตั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ เข้าเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาของคณะกรรมการที่พิจารณานโยบายควบคุมยาสูบ” ศ.นพ. ประกิตกล่าว

อ้างอิง :

1) UK doctors call for ban on ALL flavoured vapes as part of ‘vital crackdown’ on e-cig ‘epidemic’ | https://www.dailymail.co.uk/health/article-13784833/doctors-ban-flavoured-vapes-crackdown-e-cig-epidemic.html

2) ชุดข้อมูล เมื่อการห้าม คือ นโยบายดีที่สุด… | https://www.smokefreezone.or.th/media_page/614/ชุดข้อมูล-เมื่อการห้าม-คือ-นโยบายดีที่สุด.html


You must be logged in to post a comment Login