วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ดร.โสภณสนับสนุน รบ.อุ๊งอิ๊งถมทะเล

On September 10, 2024

คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ

ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  10 ก.ย  67)

ตามที่มีข่าวว่า “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” จะถมทะเล ป้องกันน้ำท่วม ดร.โสภณ ขอสนับสนุน ส่วนพวกค้าน ก็ร้อง “แผ่นเสียงตกร่อง” เหมือนเดิม คือ กลัวทำลายสิ่งแวดล้อม และกลัวการโกง

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวถึงแนวคิดในการสร้างเขื่อนโดยสร้างเกาะ 9 เกาะ เป็น “สร้อยไข่มุก” เป็นแนวคิดที่ดีที่ควรดำเนินการ อย่างไรก็ตามการทำเขื่อนในทะเล สามารถทำได้ในเชิงเทคนิค แต่ต้องใช้เงินมหาศาล ทางหนึ่งคือการออกพันธบัตรรัฐบาล และอีกทางหนึ่งคือการสร้างรายได้จากการสร้างเกาะ เช่น เปิดเป็นสถานกาสิโนนั่นเอง

รัฐบาลมีนโยบายถมทะเลสร้าง 9 เกาะ สร้อยไข่มุกอ่าวไทยนี้ ตามข่าวกล่าวว่า “ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ทะเลช่วงจังหวัดสมุทรสงคราม ไปถึงจังหวัดชลบุรี ระยะทางประมาณ 100-150 กิโลเมตร โดยตั้งชื่อไว้เบื้องต้นว่า “สร้อยไข่มุกอ่าวไทย” เพราะเกาะแต่ละเกาะจะมีลักษณะเหมือนไข่มุกร้อยกันเป็นเส้น โดยการเชื่อมต่อระหว่างเกาะแต่ละเกาะจะก่อสร้างประตูน้ำเพื่อคอยกั้นน้ำขึ้น-ลง ซึ่งแนวคิดนี้ในปัจจุบันถูกใช้ในหลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น”

ตามแผนระบุว่า “แต่ละเกาะจะถูกเชื่อมต่อด้วยถนน และรถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการเดินทางเชื่อมต่อกันไปได้ตั้งแต่จังหวัดสมุทรสงครามถึงชลบุรี หรือสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย โดยเกาะแรกอาจจะสร้างบริเวณบางขุนเทียนก่อน เบื้องต้นจะมีพื้นที่ประมาณ 5 x 10 ตารางกิโลเมตร หรือ มีขนาดของเกาะ 50 ตารางกิโลเมตร ความยาวตามชายฝั่ง 10 กิโลเมตร” โดยทำเป็นเกาะสีเขียว ส่วนคนที่เคยอยู่ริมทะเลอยู่ในตอนนี้ ก็ยังอยู่ริมทะเลเหมือนเดิม ไม่ได้ถมทะเลหรือสร้างแผ่นดินมาเพิ่ม เช่น บางขุนเทียนก็ยังเป็นทะเลบางขุนเทียน (ส่วนเกาะจะอยู่นอกฝั่งห่างออกไป 1 กิโลเมตร)”

สำหรับการหน้าที่ของเกาะนั้น รัฐบาลวางแผนให้เป็น

1. ท่าเรือขนส่งสินค้าเพื่อแทนท่าเรือเดิมที่มีอยู่บ้าง

2. โรงงานอุตสาหกรรมประมงไปตั้งบริเวณเกาะ

3. พัฒนาเป็นท่าเทียบเรือยอร์ชก็ได้

4. ใช้เกาะใดเกาะหนึ่งที่อยู่ใกล้กับชลบุรี สร้างสนามบินแห่งใหม่ ก็ได้เช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น ดร.โสภณ เสนอว่าอาจทำกิจกรรมเพิ่มเติม เช่น

1. ทำเป็นสถานกาสิโน

2. พัฒนาเป็นรีสอร์ตพักอาศัยของประชาชน เช่น กรณี the World และ the Palm Islands ที่ดูไบ เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ

ที่ผ่านมามีการพัฒนาเกาะต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น

1. สนามบินโอซากา ก็สร้างขึ้นจากการถมทะเล

2. สนามบินเช็คแลบก๊ก ฮ่องกง ก็สร้างขึ้นจากการถมทะเล

3. โครงการ the Palm Islands และ the World ที่นครรัฐดูไบ

4. สนามบินชางงี สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผลพวงจากการถมทะเล เพิ่มพื้นที่จากแผ่นดินใหญ่

5. เกาะเซนโตซา

6. เกาะ Long Island ของสิงคโปร์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและน้ำทะเลเพิ่มระดับขึ้น โดยมีขนาด 80 ตารางกิโลเมตร

ในต่างประเทศยังมีการสร้างเกาะใหม่ใหญ่น้อยมากมายเช่นกัน สำหรับในประเทศไทยก็มีโครงการถมทะเล เช่น “เดินหน้าโครงการยักษ์ ถมทะเล 1000 ไร่ สร้างท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 มูลค่าโครงการกว่า 50,000 ล้านบาท” โดย “ส่วนภาคเอกชนลงทุน 35,000 ล้านบาท ได้แก่ การขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่ การขุดลอกร่องน้ำ และแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือก๊าซรองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568”

พวกฝ่ายแค้น ฝ่ายค้านก็มักจะออกมาค้านสารพัด เช่น

1. ยังมีที่ดินมากมายบนบก ไม่ต้องสร้างเกาะใหม่ก็ได้ ทั้งที่เกาะเหล่านี้สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำท่วมในส่วนหนึ่งด้วย

2. กลัวการทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งที่ในเกาะเหล่านี้ก็ยังสามารถเพิ่มปะการัง หรือก่อให้เกิดป่าชายเลนได้เช่นกัน

3. เกรงจะเกิดการ “โกงเชิงนโยบาย” ซึ่งหากมีการโกงก็ต้องตรวจสอบ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็อ้างโกงสถานเดียว ซึ่งเป็นเพียงหวังค้านส่งเดชไปเท่านั้น

เราควรเดินหน้าโครงการใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการสัมปทานให้รอบคอบ ป้องกันการ เสียค่าโง่ และทำให้โปร่งใส


You must be logged in to post a comment Login