Shokz OPENFIT ปิดจบเรื่องการหลุดง่าย คุยสบาย เชื่อมต่อฉับไว

• Tweet
• 

หูฟังไร้สาย กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันไปแล้ว ด้วยความสะดวกสบายที่ไม่ต้องพะวงกับสายพันกัน แต่ก็ยังมีข้อเสียบางประการที่ผู้ใช้งานหลายคนพบเจออยู่ มาดูกันว่าข้อดีและข้อเสียเหล่านั้นมีอะไรบ้าง รวมถึงเทคโนโลยีล่าสุดได้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว พร้อมแนะนำ Shokz OPENFIT ที่ตัดจบเรื่องหลุดง่าย ให้คุยได้แบบสบาย ๆ กับการเชื่อมต่อสัญญาณที่ลื่นไหล ฉับไว

ข้อดีของหูฟังไร้สาย

• สะดวกสบาย : ไม่ต้องพะวงกับสายที่พันกัน ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เหมาะกับการออกกำลังกาย ฟังเพลงขณะเดินทาง หรือทำงาน
• พกพาง่าย : มีขนาดเล็กกะทัดรัด ใส่กระเป๋าได้สะดวก
• เชื่อมต่อได้รวดเร็ว : ด้วยเทคโนโลยี Bluetooth ที่พัฒนาขึ้น ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและเสถียร
• คุณภาพเสียงดีขึ้นเรื่อย ๆ : เทคโนโลยี Codec ที่พัฒนาขึ้น ทำให้คุณภาพเสียงของหูฟังไร้สายใกล้เคียงกับหูฟังแบบมีสายมากขึ้น
• ฟังก์ชันเสริม : หลายรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันเสริม เช่น การควบคุมเสียง การรับสายโทรศัพท์ หรือการใช้งานผู้ช่วยเสียง

ข้อจำกัดที่พบเจอเป็นประจำของหูฟังไร้สาย และวิธีแก้ไข

• หลุดง่าย : โดยเฉพาะสำหรับหูฟังแบบ In-Ear เรียกว่าเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของหูฟังไร้สายเลยทีเดียว วิธีแก้คือควรเลือกหูฟังที่มีขนาดและรูปทรงที่เข้ากับหู หรือมีฟินหูที่ช่วยให้ยึดเกาะได้ดีขึ้น
• ปัญหาการเชื่อมต่อ : เช่น สัญญาณขาดหาย เกิดจากสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์อื่น ๆ หรือระยะห่างที่มากเกินไป วิธีแก้คือ ควรเลือกหูฟังที่มีเทคโนโลยี Bluetooth เวอร์ชั่นสูง หรือใช้ Codec ที่มีเสถียรภาพ เช่น aptX หรือปัญหาความล่าช้า ที่อาจทำให้เสียงไม่ตรงกับภาพเมื่อดูวิดีโอ ซึ่งควรแก้ด้วยการเลือกหูฟังที่มีเทคโนโลยี Low Latency ที่ช่วยลดความล่าช้า
• คุณภาพเสียงไม่ดีเท่าหูฟังแบบมีสาย วิธีแก้คือควรเลือกหูฟังที่มีไดรเวอร์คุณภาพสูง และรองรับ Codec ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี
• อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้น อีกหนึ่งเพนต์พอยท์ของหูฟังแบบไร้สาย เพราะหากให้เทียบกับแบบมีสายต้องเรียกว่ายังห่างชั้นกันอยู่ เพราะแบบมีสายไม่ต้องใส่แบตเตอรี่ใด ๆ เชื่อมต่อเมื่อไหร่ฟังได้นานเท่าที่ต้องการ ดังนั้น วิธีแก้คือเลือกหูฟังที่มีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ หรือมีเคสชาร์จที่สามารถชาร์จหูฟังได้หลายครั้ง
• ราคาสูง : หูฟังไร้สายคุณภาพสูงมักมีราคาสูง วิธีแก้จึงควรเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติของแต่ละรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ

Shokz OPENFIT ดีไซน์ใหม่แบบ Open-Ear 

สำหรับใครที่อยากได้หูฟังไร้สายที่ตอบโจทย์เรื่องไม่หลุดจากหู และมีฟังก์ชันต่าง ๆ ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ Shokz OPENFIT อาจเป็นสิ่งที่คุณตามหา ลองไปดูความโดดเด่นกันเลย

• Shokz OPENFIT มาพร้อมดีไซน์แบบ Open-Ear ที่ไม่มีสายคาดหลังศีรษะเหมือนรุ่น OPEN อื่น ๆ แต่คาดหลังใบหูแทน จึงสวมใส่สบายแต่ไม่หลุดหู และยังคงคุณภาพเสียงชั้นเยี่ยม พร้อมการรับรู้ได้ถึงเสียงภายนอก Transparency Mode ที่ปรับให้ได้ยินเสียงรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟัง จึงปลอดภัยอย่างยิ่งแม้ต้องอยู่เอาต์ดอร์
• การเชื่อมต่อของ Shokz OPENFIT ผ่าน Bluetooth 5.2 และรองรับแอป Shokz App เพื่อปรับแต่งเสียง Adaptive EQ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม รวมไปถึงการตั้งค่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ใช้งานง่าย
• ใช้งานได้หลากหลายกิจกรรม ทั้งสำหรับสายออกกำลัง จะเหงื่อเยอะเหงื่อน้อย หรือผจญฝุ่นก็หายห่วง เพราะผ่านมาตรฐานกันเหงื่อที่ระดับ IP54 หรือจะคุยงาน ประชุมเรื่องสำคัญ รับสายโทรศัพท์ ฟังเพลง เล่นเกม ดูหนัง ดูซีรีส์ ก็ชัดแจ๋ว 
• โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี DirectPitch™ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Shokz สามารถจูนเสียงในแบบที่ชอบ เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเสียงเบสหรือเสียงแหลมก็พร้อมมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูง 
• ไมโครโฟนคมชัด จะรับสาย คุยงาน ประชุมโปรเจกต์ พร้อมฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวนจากภายนอก แบบ AI Call Noise Cancellation 
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 ชม. ต่อการชาร์จ และสามารถใช้งานสูงสุด 28 ชม. เมื่อใช้งานร่วมกับกล่องชาร์จ รองรับ Fast Charge 5 นาที ใช้งานได้ 1 ชม. 

เมื่อรู้ถึงข้อดี ข้อจำกัด และตัวเลือกใหม่จาก Shokz OPENFIT กันไปแล้ว ที่สำคัญคืออย่าลืมกำหนดงบประมาณที่ต้องการ เลือกหูฟังที่เหมาะกับการใช้งานของเราจริง ๆ ดูคุณสมบัติ ฟังก์ชัน และเทคโนโลยีต่าง ๆ และมีเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีบริการหลังการขายที่ดี ก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะสามารถจับจองเป็นเจ้าของหูฟังไร้สายที่ถูกใจได้ไม่ยาก

You must be logged in to post a comment Login