วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2568

จ.ตราด คว้ารางวัลจังหวัดที่มีการขับเคลื่อนการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็กดีเด่น

On September 29, 2024

สสส.-มูลนิธิไทยโรดส์ และเครือข่าย เผยผลสำรวจพบคนไทยเมินสวมหมวกนิรภัยมากกว่า 50%  สวนทางกลุ่มเด็กซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ สวมหมวกนิรภัยมากขึ้น ด้าน จ.ตราดคว้ารางวัลจังหวัดที่มีการขับเคลื่อนการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็กดีเด่น ด้านมูลนิธิไทยโรดส์เสนอ 5 เรื่องที่ต้องทำเพื่อเซฟสมองเด็กไทย แนะใช้ AI และ CCTV มาช่วยในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จักรยานยนต์ จัดเป็นพาหนะอันดับหนึ่งที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงสุดของทุก ซึ่งมีสาเหตุมากจากการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เมาแล้วขับ ไม่เคารพกฎจราจร และการไม่สวมหมวกนิรภัยของผู้ขับขี่และซ้อนท้าย ส่งผลให้ผู้ประสบอุบัติเหตุได้รับความบาดเจ็บทางสมอง หรือบางรายถึงแก่ชีวิต ดังนั้นการสวมหมวกนิรภัยจะเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตหรือลดความรุนแรงให้ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายได้

ที่ผ่านมา  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิไทยโรดส์ พร้อมด้วยเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Watch) แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) จัดแถลงผลสำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ปี 2566 พร้อมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมอง และทิศทางในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในภาพรวมพบว่าปี 66   มีคนไทยสวมหมวกนิรภัยต่ำกว่า 50% แต่กลับพบว่ากลุ่มเด็กซ้อนท้ายมีการสวมหมวกมากขึ้นถึง 16% และจังหวัดตราดจังหวัดมีเด็กสวมหมวกเพิ่มสูงขึ้น 32%

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 82.5% และข้อมูลของระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ ของกระทรวงสาธารณสุข พบผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ใช้รถจักรยานยนต์ มีอัตราการบาดเจ็บที่ศีรษะ 79% และในกลุ่มผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่สวมหมวกนิรภัย มีอัตราการบาดเจ็บที่ศีรษะ 24% ขณะที่กลุ่มที่ไม่สวมหมวกนิรภัย บาดเจ็บที่ศีรษะ 41%  สอดคล้องกับผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย AIT ปี 2551 พบว่า การสวมหมวกนิรภัยช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ โดยลดความเสี่ยง และความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ 72% และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต 39% แต่จากผลการสำรวจของมูลนิธิไทยโรดส์ปี 2553-2566 พบว่า อัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งประเทศในภาพรวมยังคงที่ ในปี 2566 พบว่า มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยอยู่ที่ 43% โดยแบ่งเป็นผู้ขับขี่ 48% และ ผู้ซ้อน 21%

สำหรับสาเหตุที่ผู้ปกครองไม่ได้ซื้อหมวกนิรภัยให้กับเด็กนั้น นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า ที่พ่อแม่ไม่ค่อยได้ซื้อหมวกนิรภัยให้กับเด็กเนื่องจากว่าเด็กจะมีศีรษะที่โตเร็ว ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนหมวกทุกปีซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีหมวกนิรภัยที่เอาไว้ใช้วนกันที่อยู่ในศูนย์เด็กเล็กที่มีไว้ให้ยืม และมีวิธีการทำความสะอาดหมวกนิรภัย เพื่อการใช้ที่หมนุเวียนกันไปเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นใครจจะเป็นผู้จัดหาหมวกนิรภัย ซึ่งอาจจะเริ่มที่ภาคเอกชนเข้าไปหนุนเสริม หรือ อบต.ที่มีหน้าที่ดูแลศูนย์เด็กเล็กอยู่แล้วเข้าไปหนุนเสริมได้ โดยการใช้กองทุนสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นงบจาก สปสช.ที่ร่วมกับ อบต.อยู่แล้ว ในอนาคตตนจะมีการพูดคุยกับ สปสช. ซึ่งถ้าข้อสรุปแล้วจะทำการรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้ส่งไปยัง สปสช. เพื่อให้ สปสช.ทำหนังสือถึงทุก อบต.ว่าโครงการนี้สามารถทำได้ โดยอาจการก๊อปปี้โครงการที่ทำสำเร็จ หรือดูงานในจังหวัดต่างๆที่ทำเรื่องเด็ก เช่น จ.ตราด ที่น่าสนใจเพราะเขาไม่ได้ใช้กระบวนการกฎหมายเป็นหลัก แต่มีการใช้กระบวนการอื่นๆร่วมด้วย ซึ่งถ้ามีต้นแบบให้และสามารถทำให้ทุก อบต.สนับสนุนหมวกเด็กให้ แล้วที่สำคัญไม่ใช่แค่หมวก แต่เป็นเรื่องของระบบการจัดการที่ครูศูนย์เด็กเล็กจะต้องสอนเด็ก และสื่อสารเด็กด้วยวิธีง่ายๆเกี่ยวกับความสำคัญของหมวกนิรภัย ซึ่งจะทำให้เด็กอยากใส่ ถ้าไม่มีเด็กอาจไปขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองไปซื้อ หรือศูนย์เด็กเล็กมีเป็นหมวกกองกลางก็สามารถใช้วนได้ กระบวนการดังกล่าวจะต้องสร้างการรับรู้ให้กับเด็ก และผู้ใหญ่รวมถึงผู้นำท้องถิ่นและชุมชน

“การที่เราเริ่มที่เด็ก เราหวังว่าเด็กจะไปสอนพ่อแม่หรือผู้ปกครองว่า หนูยังใส่เลย แล้วทำไมพ่อแม่ถึงไม่ใส่ หากเป็นการขับเคลื่อนกับผู้ใหญ่ก็เหมือนกับสำนวนไทยที่ว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มที่เด็กแล้วขับเคลื่อนไปยังผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายปลายทางเราต้องสร้างวินัย สร้างนิสัยให้กับคนไทยให้ได้ที่จะมีการสวมหมวกนิรภัย ทั้งการขับเคลื่อนทางกฎหมายที่จะบังคับใช้ให้ได้ ทั้งการขับเคลื่อนในเด็ก ในบ้าน ในชุมชนในการการสร้างวินัยและพฤติกรรมหมู่ของคนชุมชนนั้นๆ” ผจก.สสส.กล่าว

ที่ผ่านมา สสส. สนับสนุนโครงการ “ห่วงใครให้ใส่หมวก” ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานศึกษา และขยายผลการสวมหมวกนิรภัยในสถานศึกษา โดยเน้นมาขับเคลื่อนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ปลูกฝังจิตสำนึก ด้านความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กปฐมวัย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย100% สร้างวินัยจราจรในเด็ก รวมถึงครู ผู้ปกครอง ชุมชน เกิดความร่วมมือของท้องถิ่น ชุมชน ครู ผู้ปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความปลอดภัยทางถนนในระดับตำบล โดยอัตราการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็กมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น จากค่าเฉลี่ย 7-8% เป็น 16%

ด้าน นายณัฐพงศ์ บุญตอบ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิไทยโรดส์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2553 ที่มูลนิธิไทยโรดส์ และ เครือข่าย Road Safety Watch ได้สำรวจพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ จนถึงปี 2566 จุดสำรวจ 3,274 ทั่วประเทศ และจำนวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 1,471,540 คน พบว่า ภาพรวมของประเทศ มีผู้ใช้รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยเพียง 43% แบ่งเป็นคนขี่และคนซ้อนสวมหมวกนิรภัย 48% และ 21% ตามลำดับ จังหวัดที่มีการสวมหมวกนิรภัยสูงสุดของแต่ละภูมิภาค ในปี 2566 ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ 59% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สุรินทร์ 53% ภาคกลางและตะวันออก (ไม่รวม กทม.) จ.ตราด 67% ภาคใต้ จ.ภูเก็ต 55% และกรุงเทพฯ 71% และเมื่อเปรียบเทียบตามบริบทพื้นที่การสำรวจฯ พบว่า อัตราการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ รวมคนขี่และคนซ้อน ในภาพรวมมีแนวโน้มลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 โดยในเขตชุมชนเมืองหลักลดลงเหลือ 49% จาก 77% และเขตชุมชนชนบทลดลงเล็กเหลือ 29% จาก 30%

“กลุ่มผู้ใหญ่ทั้งคนขี่และคนซ้อน สวมหมวกนิรภัยลดลงเหลือเพียง 43% ในขณะที่กลุ่มเด็กเฉพาะคนซ้อน สวมหมวกนิรภัยสูงขึ้นเป็น 16% โดยจังหวัดที่ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย “ในกลุ่มเด็ก” ดีเด่น ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ 29% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา 21% จ.อุบลราชธานี 21% ภาคกลาง กรุงเทพฯ 30% ภาคตะวันออก จ.ตราด 32% และภาคใต้ จ.ภูเก็ต 37% สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการขับเคลื่อนหมวกนิรภัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบ สู่โรงเรียนเพื่อความปลอดภัยทางถนน โดยการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และหน่วยงาน  ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยจะต่อยอดขยายร่วมมือกับระหว่างหน่วยงานและภาคีเครือข่ายทั้งในระดับนโยบาย และปฏิบัติการ รวมถึงประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับการใช้ CCTV ที่มีอยู่ เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการติดตาม และประเมินผลการสวมหมวกนิรภัยของผู้ใช้รถจักรยานยนต์อย่างจริงจัง ” นายณัฐพงศ์ กล่าว

พร้อมเสนอ “5 เรื่องต้องทำเพื่อ #Save สมองเด็กไทย”  (1) มีนโยบายขับเคลื่อนการสวมหมวกจากส่วนกลาง สู่ท้องถิ่น  (2) เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายหมวกนิรภัย ด้วยการลงทุนเทคโนโลยี  (3) สนับสนุนให้มีระบบติดตาม มาตรการสวมหมวกนิรภัย ด้วยการใช้ AI  (4) ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนน-วินัยจราจร ในสถานศึกษา  และ (5) ส่งเสริมการเข้าถึงและจัดหาหมวกนิรภัยสำหรับเด็ก ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย

สำหรับ จ.ตราด ที่ได้รับรางวัลจังหวัดที่มีการขับเคลื่อนการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็กดีเด่น ประจำปี 2566 โดยมีนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวถึงการดำเนินงานว่า จ.ตราดเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเช่นกัน และอุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นในเมือง ทางจังหวัดได้มีการจับตาเฝ้าระวังโดยให้ทุกพื้นที่คอยดูว่า พื้นที่ตรงไหนเกิดอุบัติเหตุมาเราจะทำป้ายหัวกะโหลกติดไว้ว่าเป็นจุดเสี่ยง ส่วนบ้านไหนมีการดื่มเราจะให้เจ้าหน้าที่คอยจับตา เพราะเมาแล้วจับก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ จากข้อมูลพบว่า พฤติกรรมของคนจะมีการเชื่อมโยงกับการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งทางจังหวัดมีเป้าหมายที่อยากให้ทุกคนได้รับความปลอดภัย และทำให้คนตระหนักรู้ว่าการไม่สวมหมวกนิรภัยเวลาเกิดอุบัติเหตุจะเกิดความรุนแรงได้

นอกจากนี้ทางจังหวัดจะมีการตั้งด่านชุมชน และจะมีการถ่ายทอดสดในช่วง 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาล รวมทั้งสถานที่ราชการ สถานศึกษา สถานพยาบาล หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานประกอบการ และนิคมอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100%  ซึ่งนอกจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว ยังได้นำเรื่องของศีลธรรมเข้ามาช่วยให้ประชาชนไม่เกิดความประมาท  โดยจะให้ท้องถิ่นนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่

จากการทำงานที่เข้มข้นและต่อเนื่องของ จ.ตราด ส่งผลให้ในปี 2566 จ.ตราดมีอัตราการสวมหมวกนิรภัยรวมคนขับขี่และคนซ้อน ร้อยละ 67 สูงสุดเป็นอันดับสองของประเทศรองจาก กทม. และรับรางวัลจังหวัดที่มีการขับเคลื่อนการสวมหมวกนิรภัยในกลุ่มเด็กดีเด่น


You must be logged in to post a comment Login

Казино левлучший портал для азартных игроков
Игровые автоматызахватывающая игра начинается сейчас
azino777испытай удачу прямо здесь
1win казинооткрой для себя мир азартных игр
Вулкан платинумавтоматы с высокой отдачей ждут тебя
Казино левгде выигрыши становятся реальностью
Игровые автоматыразвлекайся и выигрывай каждый день
азино три топоранаслаждайся адреналином от побед
Казино 1winкаждая игра — шаг к успеху
Вулкан россиятвой шанс на большой выигрыш
Казино левоснова азартного мастерства
Игровые автоматытоповые игры для каждого
Azino777только для настоящих ценителей риска
1win казинокайф от игры начинается здесь
Вулкан 24где каждый день приносит победы
Казино левновые высоты азартных эмоций
Игровые автоматыгде выигрыши реальны
азино три топорасамые горячие игры ждут
Казино 1winвыигрывайте с комфортом
Казино вулкан россияисследуй мир азартных автоматов
Казино левтвой источник азарта и выигрышей
Игровые автоматыискусство выигрыша ждет тебя
azino777почувствуй азарт и драйв
1win казиноидеальный выбор для азартных игр
Вулкан платинумиграй и побеждай с удовольствием
Казино левнаслаждайся азартом без границ
Игровые автоматылучшие призы ждут тебя
азино три топоратвоя игра начинается здесь
Казино 1winновые уровни азарта и удачи
Вулкан россияначни путь к победе прямо сейчас
Coco chat - Rejoignez nouvelles discussions enrichissantes sur Bed and Bamboo
Chatrandom - Discover exciting chats with new people on Bed and Bamboo
Chatrandom - Entdecke spannenUnterhaltungauf Bed and Bamboo
Chatrandom - Ontdek boeienchats op Bed and Bamboo
Coco chat - Partagez des moments uniques sur Hoodrich France
Chatrandom - Connect and chat on Hoodrich France
Chatrandom - Chatte mit der Hoodrich France Community
Chatrandom - Geniet van chats in Hoodrich France gemeenschap
Coco chat - Connectez-vous pour des échanges passionnants sur I’m Famous 51
Chatrandom - Meet and chat on I’m Famous 51
Chatrandom - Führe spannenGespräche auf I’m Famous 51
Chatrandom - Beleef gesprekkop I’m Famous 51
Coco chat - Discutez avec la communauté Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Explore vibrant conversations at Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Tritt spannendChats bei Quincaillerie Outillage Thollot bei
Chatrandom - Ga mee in boeiengesprekkbij Quincaillerie Outillage Thollot
Coco chat - Rejoignez TurboSystem pour discuter
Chatrandom - Engage in exciting chats at TurboSystem
Chatrandom - Genieße spannenChats bei TurboSystem
Chatrandom - Beleef chatplezier bij TurboSystem