เลือกฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดีให้คุ้มค่า ? คู่มือสำหรับมือใหม่

• Tweet
• 

การติดฟิล์มรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสบายให้กับการขับขี่และปกป้องภายในรถจากความร้อนและรังสี UV การเลือกฟิล์มรถยนต์ที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับความต้องการจะทำให้คุณได้รับประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการประหยัดพลังงาน แต่การฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่คุ้มค่าอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก

ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีการเลือกฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการใช้งาน พร้อมแนะนำคุณสมบัติที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

1. ทำความเข้าใจประเภทของฟิล์มรถยนต์

ก่อนที่จะเลือกฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี สิ่งแรกที่คุณควรทราบคือประเภทของฟิล์มที่มีจำหน่ายในท้องตลาด โดยทั่วไปแล้ว ฟิล์มรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. ฟิล์มกรองแสงธรรมดา (Dyed Film): เป็นฟิล์มที่มีสีทึบ ทำหน้าที่กรองแสงแดดและลดความร้อน แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV น้อยและมีอายุการใช้งานสั้น
2. ฟิล์มเคลือบโลหะ (Metalized Film): ฟิล์มชนิดนี้จะมีชั้นเคลือบโลหะที่ช่วยสะท้อนความร้อนออกจากรถและมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV สูงกว่า แต่ข้อเสียคืออาจรบกวนสัญญาณโทรศัพท์หรือ GPS
3. ฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film): เป็นฟิล์มที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงสุด สามารถป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยม รวมถึงรังสี UV และยังไม่รบกวนสัญญาณโทรศัพท์และ GPS แต่ราคาจะสูงกว่าฟิล์มชนิดอื่น

2. พิจารณาความต้องการในการใช้งาน

ความต้องการในการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป บางคนอาจต้องการฟิล์มที่ช่วยลดความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในการขับขี่ ดังนั้น การเลือกฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดีจึงควรพิจารณาจากความต้องการเฉพาะของคุณ เช่น

• หากคุณขับขี่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดแรง ควรเลือกฟิล์มที่มีประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนและป้องกันรังสี UV สูง เช่น ฟิล์มเซรามิก หรือฟิล์มเคลือบโลหะ
• หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัว ควรเลือกฟิล์มที่มีความทึบมากขึ้น แต่ยังต้องระวังเรื่องการมองเห็นในเวลากลางคืน
• หากคุณกังวลเรื่องการรบกวนสัญญาณ GPS หรือสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ควรหลีกเลี่ยงฟิล์มที่มีชั้นเคลือบโลหะ

3. เลือกฟิล์มที่มีค่าป้องกันรังสี UV สูง

รังสี UV เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ภายในรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเบาะหนังและวัสดุอื่น ๆ ที่โดนแสงแดดโดยตรง นอกจากนี้ รังสี UV ยังเป็นอันตรายต่อผิวหนังและสายตาของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ดังนั้น การเลือกฟิล์มที่มีค่าป้องกันรังสี UV สูง เช่น ค่าป้องกัน UV 99% ขึ้นไป จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเหล่านี้ได้

4. พิจารณาเรื่องความทึบแสง (VLT – Visible Light Transmission)

ค่าความทึบแสง (VLT) หมายถึงเปอร์เซ็นต์ของแสงที่สามารถส่องผ่านฟิล์มเข้ามาในรถได้ ฟิล์มที่มีค่า VLT ต่ำจะมีความทึบมากกว่า ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้การมองเห็นในเวลากลางคืนยากขึ้น ขณะที่ฟิล์มที่มีค่า VLT สูงจะโปร่งใสมากกว่า แต่ป้องกันความร้อนได้น้อยกว่า ดังนั้น ควรเลือกค่าความทึบแสงที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน เช่น

• ฟิล์มด้านหน้า ควรมีค่า VLT ประมาณ 40-50% เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขณะขับขี่
• ฟิล์มด้านข้างและด้านหลัง สามารถเลือกความทึบได้ตั้งแต่ 20-35% ขึ้นอยู่กับความต้องการความเป็นส่วนตัว

5. สอบถามการรับประกันและบริการหลังการขาย

การเลือกฟิล์มรถยนต์ที่มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ควรสอบถามเกี่ยวกับระยะเวลาการรับประกันและเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดปัญหาขึ้น คุณจะสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่อาจดูเป็นเรื่องซับซ้อน แต่หากเข้าใจประเภทของฟิล์มและพิจารณาความต้องการของตัวเองอย่างละเอียด คุณจะสามารถเลือกฟิล์มที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างแน่นอน อย่าลืมเลือกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกัน และตรงกับงบประมาณของคุณ เพื่อให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยและสบายใจมากที่สุด

You must be logged in to post a comment Login