วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2567

TPIPL ออกหุ้นกู้ใหม่ 2 ชุด ดอกเบี้ย 3.85 – 4.00% ต่อปี เปิดจอง 5 – 7 พ.ย. นี้

On October 7, 2024

TPIPL เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 อายุ 4 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.85% ต่อปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 7,000 ล้านบาท และชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเปิดจองซื้อวันที่ 5 – 7 พฤศจิกายน 2567 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายรวม 19 แห่ง เผยหุ้นกู้และองค์กรได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้งที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) สะท้อนความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันในตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศ รวมถึงกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า และประโยชน์จากการกระจายการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย มั่นใจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ชี้หุ้นกู้มีความเสี่ยงต่ำที่ระดับ 3 (ความเสี่ยงสูงสุดอยู่ที่ระดับ 8)

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ ธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ รวมทั้งผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ ธุรกิจโพลีเมอร์ชนิดพิเศษ (Specialty Polymer) และธุรกิจโรงไฟฟ้า (ผ่านบริษัทย่อย) เปิดเผยว่า  บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1อายุ 4 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.85% ต่อปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 7,000 ล้านบาทและหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 7,000 ล้านบาทกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ระดับ A- แนวโน้ม “คงที่” (Stable) เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือองค์กร โดยคาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2567 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน  

ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่า หุ้นกู้ TPIPL จะได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากได้กำหนดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสม สอดคล้องกับอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “A-” จากทริสเรทติ้งโดยมีความเสี่ยงต่ำที่ระดับ 3 (ความเสี่ยงสูงสุดอยู่ที่ระดับ 8) ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เขียว และผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์เขียว รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ธุรกิจพลังงานทดแทนจากขยะเทศบาลและแสงอาทิตย์ และสาธารณูปโภค ธุรกิจการเกษตรชีวะอินทรีย์ และอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ขณะที่ ทริสเรทติ้ง ระบุด้วยว่า “ทีพีไอ โพลีน” มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศไทย ตลอดจนอยู่ในตำแหน่งผู้นำในตลาด Ethylene Vinyl Acetate (EVA) ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกระแสเงินสดที่มั่นคงจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า และได้รับประโยชน์จากการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจที่หลากหลาย

ปัจจุบัน บมจ. ทีพีไอ โพลีน และบริษัทในเครือประกอบธุรกิจหลัก แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้

(1) ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์เขียว คอนกรีตผสมเสร็จเขียว กระเบื้องคอนกรีตเขียว  ไฟเบอร์ซีเมนต์เขียว อิฐมวลเบาเขียว สี และวัสดุก่อสร้างอื่น โดยเป็นบริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ที่สามารถลด CO2 ได้มากที่สุดของประเทศไทย

(2) ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโพลีเมอร์ชนิดพิเศษ (Specialty Polymer) ประกอบด้วย พลาสติก LDPE และ EVA (โดยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพลาสติก EVA รายเดียวในประเทศไทย) กาวน้ำ กาวผง  Solar Film แอมโมเนียมไนเตรท และกรดไนตริก เป็นต้น โดยเป็นผู้ผลิตแอมโมเนียมไนเตรทรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

(3) ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ได้แก่ ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงขยะ (โดยมีโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่ปล่อยของเสียออกนอกโรงงาน (Zero  Waste) และได้รับ Carbon Credits มากที่สุด มีโรงกำจัดขยะในพื้นที่แห่งเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก)  (โรงไฟฟ้าถ่านหิน อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 100% ภายในปี 2568 โรงงานแปรรูปขยะเป็นเชื้อเพลิงทดแทน) โรงงานผลิตเชื้อเพลิงเหลวจากยางรถยนต์เก่า สถานีให้บริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมด้วย Charger ไฟฟ้า สำหรับรถไฟฟ้า (EV) และโรงงานรับกำจัดกากอุตสาหกรรม

(4) ธุรกิจการเกษตรชีวะอินทรีย์และอื่น ๆ ดังนี้

(4.1) ผลิตภัณฑ์สำหรับพืชไร้สารพิษ ได้แก่ ปุ๋ยชีวะอินทรีย์ สารปรับปรุงสภาพดิน และสารไล่แมลง โดยไม่ต้องใช้ยาเคมีพิษฆ่าแมลง

(4.2) ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์ไร้สารพิษ ได้แก่ จุลินทรีย์ชีวนะ สำหรับปศุสัตว์และประมง ไร้สารพิษและสารฆ่า VIRUSES ในสัตว์บกและสัตว์น้ำ โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

(4.3) ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยชีวภาพ ได้แก่ เครื่องดื่มโพรไบโอติกผสมวิตามิน (Pro vita) อาหารเสริมโพรไบโอติกแคลเซียมและวิตามินซี น้ำยาบ้วนปากไบโอน็อค (Bio Knox) เป็นน้ำยาบ้วนปากเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียในช่องปาก ป้องกันไม่ให้เชื้อ Virus เข้าสู่ร่างกายทางปาก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน และน้ำยาขจัดคราบ นอกจากนี้มี น้ำยาล้างผัก สบู่เหลวอาบน้ำ สบู่ล้างมือ รวมถึงน้ำดื่มตราทีพีไอพีแอล อีกทั้งยังมีธุรกิจประกันชีวิตที่ดำเนินการภายใต้บริษัทในเครือทีพีไอโพลีน

นอกจากนี้ กลุ่มทีพีไอโพลีน ได้ส่งเสริมการพัฒนาด้านความยั่งยืน ในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission โดยใช้เชื้อเพลิงขยะในการผลิตไฟฟ้า และใช้เชื้อเพลิงขยะแทนถ่านหินบางส่วนในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ใช้ระบบสายพานลำเพียงวัตถุดิบ ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรโรงปูนซิเมนต์เพื่อลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและลดฝุ่น (Green Cement Process) เปลี่ยนใช้มอเตอร์ ไฟฟ้าในรถและเครื่องจักร เหมืองแทนเครื่องยนต์สันดาป (Green Mining) ผลิตวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Products) ปรับปรุงระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้า (Green Logistics) ใช้รถไฟฟ้าในการปฏิบัติงาน  (Green Management) และใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าในการปฏิบัติงาน (Green Warehouse) นอกจากนี้กลุ่มทีพีไอโพลีนได้บริจาคเงินช่วยเหลือชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม

โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับรางวัลในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

  1. ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น ESG 100 ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2565-2567) และเป็นบริษัทที่น่าลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างจากการประเมินของสถาบันไทยพัฒน์
  2. ได้รับการประเมินเป็น “หุ้นยั่งยืนระดับ AA” ประจำปี 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  3. ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”
  4. ได้รับรางวัล 3G Excellence Award in CSR Activities 2023 จากเวทีระดับโลก Global Good Governance Awards 2023 จากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน Cambridge IFA International Financial Advisory สหราชอาณาจักร

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ TPIPL สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวนการเสนอขายได้ที่ www.sec.or.th และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 19 แห่ง  ดังนี้

จัดจำหน่ายสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-8888

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050

จัดจำหน่ายสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)  โทร. 02-676-8000

จัดจำหน่ายสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-638-5500

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800 กด 1

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-205-7000 ต่อ 7311 หรือ 7391

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-635-1700

บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6688

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร.02-820-0100

บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โทร. 02-625-2422

บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-659-5272-73

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด โทร. 02-088-9100


You must be logged in to post a comment Login