วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2567

สสส. สานพลัง กทม.-ภาคี จับมือ ครีเอเตอร์สายอาหาร เปิดตัวโครงการ Restaurant Makeover

On October 11, 2024

อึ้ง! ขยะอาหารโลก พุ่งกว่า 1 พันล้านตัน หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม-สุขภาวะคนไทย สสส. สานพลัง กทม.-ภาคี จับมือ ครีเอเตอร์สายอาหาร เปิดตัวโครงการ Restaurant Makeover รวมพลเหล่าคนดัง ปักหมุด 50 ร้านเด็ด มุ่ง ลดขยะอาหารเป็นศูนย์ ดัน ร้านอาหารสู่ต้นแบบการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

เวลา 13.00 น. วันที่ 10 ต.ค.67 ที่ศูนย์การเรียนรู้อเนกประสงค์ TK Park สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สานพลังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภาคีเครือข่าย จับมือ ครีเอเตอร์สายอาหาร จัดพิธีแสดงเจตนารมณ์เปิดตัวโครงการพัฒนาศักยภาพร้านอาหารสู่ต้นแบบการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(Restaurant Makeover) เพื่อลดขยะอาหารจากต้นทาง สร้างการรับรู้ เข้าถึงประชาชน กระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของปัญหาและเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณขยะอาหารในประเทศไทย

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากรายงาน Food Waste Index 2024 ของ UNEP ระบุว่า ในปี2565 ขยะอาหารทั่วโลกมีปริมาณมากกว่า 1 พันล้านตัน โดยค่าเฉลี่ยขยะอาหารของโลกอยู่ที่ 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า คนไทยสร้างขยะอาหารถึง 9.68 ล้านตันต่อปี หรือเฉลี่ยเป็น 146 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึงเกือบสองเท่า ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาดังกล่าว สสส. ได้เร่งผลักดันเชิงนโยบายให้เกิดแผนปฏิบัติการจัดการขยะอาหารของประเทศ มุ่งเน้นการขับเคลื่อนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้จำหน่ายอาหาร ผู้ประกอบอาหารและผู้บริโภคในการป้องกันการเกิด การลด การนำกลับมาใช้ประโยชน์และการกำจัดขยะอาหาร

“โครงการพัฒนาศักยภาพร้านอาหารสู่ต้นแบบการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(Restaurant Makeover) ถือเป็นการนำร่องร้านอาหารขนาดย่อม SMEs ในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 50 แห่ง ที่จะดำเนินการต่อเนื่องตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2567ถึงเดือนสิงหาคม ปี 2568 คัดเลือกร้านอาหารจากความสมัครใจ และความพร้อม โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุน ด้านการฝึกอบรมระบบการจัดการขยะอาหารเบื้องต้น และได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการขยะอาหาร เพื่อพัฒนาศักยภาพร้านอาหารสู่ต้นแบบการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน ลดมลพิษสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาวะที่ดีได้อีกด้วย” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าเป้าหมายของโครงการRestaurant Makeover คือการพัฒนาศักยภาพร้านอาหาร ให้บริหารจัดการขยะได้อย่างเป็นระบบ สามารถนำขยะอาหารไปเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น นำไปเลี้ยงสัตว์ ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ น้ำหมักจุลินทรีย์ เพื่อให้ปริมาณขยะอาหารเหลือไปถึงหลุมฝังกลบให้น้อยที่สุด มุ่งสู่การลดขยะอาหารจากร้านอาหารเป็น 0% เพราะขยะอาหารที่ไม่ได้มีการจัดการอย่างเหมาะสม จะส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา กทม. มีโครงการ “ไม่เทรวม” ช่วยแยกขยะเศษอาหารเฉลี่ยได้ถึง 184 ตันต่อวัน ลดการปล่อยคาร์บอนได้เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 600,000 ต้น

นางสาวพิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มaRoundP กล่าวว่า ขยะอาหารไม่ใช่แค่ปัญหาท้องถิ่น แต่เป็นปัญหาระดับโลก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ดังนั้น ความตั้งใจในการทำแพลตฟอร์ม aRoundP ขึ้นมา ภายใต้โครงการRestaurant Makeover เพื่อเป็นสื่อหลักในการนำเสนอข้อมูลร้านอาหารทั้ง 50 ร้าน ที่เป็นจานเด็ดจากเหล่าคนดัง คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทั้งสายกิน สายกรีน และสายสุขภาพ เช่น ร้านชู้ลาวชู้รส ร้านยี่สับหลก ร้านหม้อหอม ร้านเฮียด่วน ร้านข้าวมันไก่เจ็กเม้ง และอื่นๆอีกมากมาย มาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมชวนตามไปกินจานเด็ด ที่รับรองว่าอร่อยจนต้องกินหมดจาน ไม่ก่อให้เกิดขยะอาหาร พร้อมทั้งส่งเสริมผู้บริโภคให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดโครงการและข้อมูลร้านเด็ดของเหล่าคนดังได้ที่ www.aroundp.co  


You must be logged in to post a comment Login