วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เปิดตัวนิทาน “ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล”สร้างความรู้เด็ก-เยาวชนใช้รถ-ถนนอย่างปลอดภัย

On October 21, 2024

เปิดเวทีเสวนา“อนาคตเด็กไทยกับความปลอดภัยบนท้องถนน” พบ ปี 66  1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเด็ก สาเหตุจากไม่สวมหมวกนิรภัย 90.7% ผู้ขับขี่เมาแล้วขับ 38.3% เรียกร้องทุกหน่วยงานสร้างนโยบายความปลอดภัยทางถนน พร้อมเปิดตัว นิทาน “ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล”ติดอาวุธทางปัญญาให้เด็ก-เยาวชน ให้ใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย

ชี้ระบบขนส่งสาธารณะต้องปลอดภัยป้องกันความสูญเสีย

ผศ.สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า กล่าวว่า  จากรายงานการทบทวนสถานการณ์ ความท้าทาย และแนวทางการดูแลเด็กปฐมวัย ในสถานเลี้ยงเด็กปฐมวัย ปี 2565 โดย มหาวิทยาลัยรังสิต พบว่า ไทยมีเด็ก อายุ 0-6 ปี จำนวน 4.3 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2 ล้านคน ต้องใช้ขนส่งสาธารณะหลากหลายรูปแบบในการเดินทางไปยังสถานศึกษา เนื่องจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือโรงเรียนอนุบาลไม่ได้มีทุกหมู่บ้าน ระยะทางไกล และเกินครึ่งผู้ปกครองไม่สามารถรับส่งด้วยตัวเองได้ เด็กและเยาวชนจึงต้องใช้ขนส่งสาธารณะเป็นช่องทางหลักในการเดินทาง ต้องแบกรับความเสี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ บนท้องถนนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งจากพฤติกรรมผู้ขับขี่ การขาดความตระหนักในกฎจราจร ความประมาทเลินเล่อ คุณภาพสมรรถนะของยานพาหนะ รวมถึงการขาดความเอาใจใส่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง

“ ความเศร้าสลดที่เกิดขึ้นสะท้อนภาพความจริงอย่างหนึ่งว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับเด็กมีมากกว่าเหตุการณ์ทัศนศึกษา การเดินทางของเด็กมาโรงเรียนในแต่ละวัน ดังนั้นความปลอดภัยของเด็กจะต้อเกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน และสิ่งที่ท้าทายของทุหน่วยงานคือ ความปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กๆที่ทุกหน่วยงานต้องเคลื่อนไหว ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้คือ การหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที ”ผศ.สุนี กล่าว

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า รายงานสถานการณ์การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2566 โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 17,498 คน หรือคิดเป็นเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 48 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 0-24 ปี มากถึง 10 คน เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน สาเหตุการเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 90.7% เมาแล้วขับ 38.3% ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 37.5% ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 33.5% ไม่คุ้นเคยเส้นทาง 17.3% ปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กเกิดลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อสังคมสูงวัย การคุ้มครองสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของเด็ก จึงควรถูกกำหนดเป็นนโยบายสำคัญของทุกรัฐบาลที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

น.ส.ณัฐยา กล่าวว่า สำหรับการพัฒนานโยบายด้านการดูแลความปลอดภัยของเด็กบนท้องถนนระยะยาว สสส. มีข้อเสนอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เร่งส่งเสริมประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1.ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน ทั้งการจัดการระบบรถรับส่งนักเรียนและรถทัศนศึกษาที่ต้องถูกควบคุมให้ได้มาตรฐานสูงสุด และนำเทคโนโลยีเข้ามาตรวจสอบให้เกิดความปลอดภัย 2.ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในเด็กและเยาวชน โดยกำหนดให้เป็นสวัสดิการ 3.ส่งเสริมให้สถานศึกษาปลูกฝังการเรียนรู้เรื่องวินัยจราจรและความปลอดภัยทางถนน

“เพียงแต่ท่านลงมือทำตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นบริการสาธารณะ รถรับส่งนักเรียนต้องไม่ใช่เรื่องจองคนใดคนหนึ่งเราต้องไม่ปล่อยให้เกิดความสูญเสียแบบที่ผ่านมา” น.ส.ณัฐยา กล่าว

เปิดตัวนิทาน “ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล”

น.ส.สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุที่เกิดบ่อยในเด็กและเยาวชน มีทั้งเกิดจากตัวเด็กและความประมาทของผู้ใหญ่ ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมเป็นระยะๆ จากสถานการณ์ดังกล่าว แผนงานยุทธศาสตร์ฯ สสส. จึงเดินหน้าพัฒนาหนังสือนิทาน “ขับรถปลอดภัยไปเที่ยวทะเล” เพื่อให้ผู้ปกครอง ครู และผู้แวดล้อมเด็ก ใช้เป็นเครื่องมือชวนเด็กระวังภัยจากท้องถนน ผ่านการเน้นย้ำกฎสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่ 1.นับ นับจำนวนเด็ก ก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง 2.ตรวจตรา ก่อนล็อกประตูรถ 3.อย่าประมาท ทิ้งเด็กไว้เพียงลำพังแม้ช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับผู้สนใจสามารถเปิดอ่านและดาวน์โหลดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บไซต์แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. www.happyreading.in.th

ท้องถิ่นเสนอระบบขนส่งสาธารณะ 

รศ.วิระศักดิ์ ฮาดดา  นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะสามารถแก้และบรรเทาได้ หากรัฐบาลดำเนินการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง งบประมาณ โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด แบ่งมาให้ท้องถิ่นเท่าที่จำเป็น การแก้ไขปัญหาจึงค่อนข้างยาก แต่ท้องถิ่นก็พยายามทุกอย่าง โดยเฉพาะทำทุกอย่างให้เด็กปลอดภัย  ขอให้รัฐบาลเขียนระบุให้ชัดเจน ว่าอะไรทำได้ไม่ได้ อย่างไร อยากให้เด็กปลอดภัยอย่างแท้จริงต้องกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์แบบ ท้องถิ่นไม่ใช่รากหญ้า แต่เป็นฐานรากของประเทศชาติ


You must be logged in to post a comment Login