วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ชวนทำบุญครั้งสุดท้าย

On November 14, 2024

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม         

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 14 พ.ย. 67)

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่เรียกว่า โชคดี มีการประชุมเปิดแถลงข่าวเรื่องปิดตำนานโฉนดถุงกล้วยแขก เรียกว่า สู้กันมานานเกือบ 20 ปี แผ่นดินก็ถูกล่ามโซ่ ไม่มีใครเข้าไปทำประโยชน์ได้ แต่วันนี้ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ซึ่งถือว่า เป็นทนายที่ใฝ่ศีล ใฝ่ธรรม ช่วยตั้งมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ช่วยคดีให้วัดสวนแก้ว ถูกปลดล็อกแผ่นดิน โดยการเข้าไปเจรจากับเจ้าของที่ดินด้วยอาการประนีประนอม ไม่ใช้ความรุนแรงต่อทอติฉินนินทา เดิมทีแรกทนายก็ยุให้สู้กันแบบนั้นๆ

แต่พอมาถึงทนายอนันต์ชัย ขอเปลี่ยนวิธีใหม่ ไม่ใช้ความรุนแรง ใช้ความละมุนละไมอย่างชนิดที่ประนีประนอม ปรากฏผลเกิดสำเร็จ ไม่นึกเลยว่า เจ้าของที่ดินฝากขอโทษกับคนที่ไปร่วมกับทนายอนันต์ชัย บอกว่า ขอโทษด้วยนะที่มีการกระทบกระทั่งอะไรไป คำขอโทษนี้ไม่เคยได้ยินมาจากเจ้าของที่ดินเลย ทางเราก็เหมือนกันก็ต้องขอโทษตระกูลที่มีเรื่องเข้าใจผิด หมางใจกันมา ตอนนี้มันจบด้วยคำว่า “ต้นร้าย ปลายดี”  “มืดมาสว่างไป” Happy Ending กัน ทุกฝ่าย

ฝ่ายแรกกรมที่ดินที่เห็นโฉนดถุงกล้วยแขกแล้วก็จะแสลงใจ เพราะมีชื่อเจ้าหน้าที่ที่ดินร่วมออกโฉนดมา ได้ทำโฉนดถุงกล้วยแขกแปะไว้ด้านหน้า เท่ากับถอนสลักหรือเสี้ยนหนามที่แทงใจเจ้าหน้าที่ที่ดินมาเป็นเวลาหลายปีแล้วที่สร้างอนุสาวรีย์แล้ว สิ่งแรกเลย เจ้าหน้าที่ที่ดินน่าจะโล่งอก โล่งใจ ไม่แสลงใจที่เอาโฉนดมาประจานขึ้นเป็นอนุสาวรีย์ ตอนนั้น อารมณ์มัน เรียกว่า มีคนมายุ มาให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ มันก็เดือดดาลอยู่บ้างก็เลยทำไป

เอาละ เป็นอันว่า ปิดตำนานอนุสาวรีย์โฉนดถุงกล้วยแขก และวันนี้วางแผนจะรื้อส่วนที่เป็นสัญลักษณ์โฉนดถุงกล้วยแขกออก เอาอาคารนั้นเป็นที่ทำประโยชน์อย่างอื่น ไม่มีร่องรอยของอนุสาวรีย์ของโฉนดถุงกล้วยแขก และ Happy Ending อันดับ 2 ก็คือ เจ้าของที่ดินจะได้รับแต่ความชื่นมื่น ชื่นใจ อาตมามานึกดูว่า เราเป็นพระ โยมก็เป็นศาสนิกในพระพุทธศาสนา เราไม่ควรจะแพ้คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเขามาดีกันได้ กอดกันได้

อาตมาคงจะคิดว่า ถ้าเจ้าของที่ดินตระกูลหิรัญประดิษฐ์  มีการโอนอ่อนผ่อนปรน ราคาที่ดินไม่เอาแพงนัก เราก็จะมีคนช่วยกันระดมทุนซื้อกลับมาให้เป็นของวัดสวนแก้ว วัดก็จะได้ทำประโยชน์แก่คนรากหญ้า เปราะบาง ให้มีงาน มีอาชีพ ซึ่งประโยชน์อันดับแรก กรมที่ดิน อันดับ 2 คือ เจ้าของที่ดิน เชื่อว่า ถ้าเขาไม่เอาแพงหรือกึ่งขาย กึ่งถวาย ก็จะจัดกระเช้าทุเรียนนนทบุรีไปให้จนกว่าชีวิตอาตมาจะไม่เหลือ

เรียกว่า ถ้ามี ก็จะให้ทุกปีจนกว่าทุเรียนจะหมด เจ้าของที่ดินน่าจะมีความสุข ต่อมาก็คือ วัด แน่นอน ได้ทำประโยชน์ แต่ที่สูงสุดก็คือ ทนาย เรากระทบกระทั่งมาเรื่อยเรื่องทนายนี่ ตอนนั้น ทราบข่าวว่า ทนายก็ประนีประนอมกับทนายอนันต์ชัย ที่ถือเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องอะไรกัน เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกันอะไรอย่างนี้ เรื่องมันก็เลยจบลงแบบ Happy Ending เรียกว่า วินๆด้วยกันทั้งนั้นเลย ไม่มีใครแฟบ มีแต่ฟูกัน

อาตมานึกว่า ชีวิตนี้ได้ไถ่บาปกับหลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ไปขอเงินท่านมาซื้อที่ดินแปลงนี้ สมเด็จวัดปากน้ำที่ท่านมรณภาพไปก็ช่วยมา 2 แสนบาท หลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อแพ หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อจรัญ ก็ได้มอบเงิน แม้กระทั่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านก็ให้ลูกศิษย์มาถวาย 1-3 หมื่นบาท จำไม่ได้แล้ว ให้มาร่วมซื้อที่ดินให้คนยาก คนจน คราวนี้ที่มันเป็นตราบาปในใจอยู่ เราเอาเงินของหลวงปู่ หลวงพ่อมาใช้ในทำนองที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ที่ดินไม่ได้ ทั้งๆที่ซื้อมาแล้ว โฉนดได้มาแล้ว

แต่คราวนี้ ถ้าเกิดได้ที่ดินคืนให้วัด ก็จะกลายเป็นเรื่องที่น่าชื่นอก ชื่นใจ ขอฝากสาธุชนคนที่เคยคิดจะช่วย เช่น เจ้าของโรงภาพยนตร์ฟิวเจอร์ มาที่วัดเลย บอกจะหาเงินช่วยซื้อที่ดินกลับมาให้หลวงพ่อ ซึ่งตอนนั้นเรามันกินอุดมการณ์มากเกินไป เรานึกว่า เจ้าของโรงภาพยนตร์ไม่ได้มาทำให้เราเสียหาย ทำไมต้องมาให้เขามาเสียเงินซื้อให้เราอีกก็เลยไม่รับ และยังมีหลายคนจะช่วยก็ไม่รับ แต่ตอนนี้ ขอบอกหน่อยว่า วันที่ 8 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการทอดผ้าป่า ชื่อผ้าป่าแปลกหน่อย “ผ้าป่าปลดล็อกแผ่นดินให้วัดสวนแก้ว”

ทอดผ้าป่าปลดล็อกแผ่นดิน เพราะแผ่นดินตรงนี้ ไร่กว่าๆนี้ มันถูกล็อกมาเป็นสิบๆปี ไม่มีใครเข้าไปทำประโยชน์อะไร รกอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าที่ดินได้เป็นของวัดเมื่อไร จะปรับภูมิทัศน์ จะปรับแต่งสถานที่ให้สวยงาม และก็จะเป็นที่ประกอบอาชีพแก่พวกเปราะบาง รากหญ้า ให้ได้มีสถานที่ทำมาหากิน หวังว่า ประชาชนและอาตมาจะเรียกว่า ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายก็ได้ เพราะได้อธิษฐานใจไว้ว่า ขอจะทำอะไรให้มันสำเร็จก่อนตาย

ถ้าก่อนตายสัก 2-3 ปีนี่ เกิดซื้อที่ดินกลับคืนมาให้วัดได้จะกลายเป็นอุดมการณ์ ปณิธานที่หวังไว้ได้สมหวัง จะตายก็นอนตาหลับแล้ว ไม่เป็นหนี้บาปแก่หลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ไปขอปัจจัยท่านมาซื้อที่ดินแปลงนี้ ญาติโยม ถ้ารู้แล้วก็อย่าลืมนะ ร่วมกับมูลนิธิทนายกองทัพธรรมของทนายอนันต์ชัย ช่วยกันบอกข่าวด้วยว่า เป็นบุญครั้งแรกที่อาตมาคิดว่า จะเปลื้องบาป เปลื้องกรรมได้ไปในตัว ถ้าได้ เอาที่คืนมาให้ได้เป็นของศาสนสถานของวัดได้ เป็นธรณีสงฆ์ของวัดได้ ขอให้ได้เสร็จก่อนตายแน่นอน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login