- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 1 month ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 1 month ago
- โลกธรรมPosted 1 month ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 1 month ago
- สลายความเกลียดชังPosted 1 month ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 1 month ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 1 month ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 1 month ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 1 month ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 1 month ago
บทเรียนจากการสร้างมนุษย์

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 22 พ.ย. 67)
ในกองทัพ ถ้าผู้บังคับบัญชาสั่งทหารคนใดและทหารไม่ทำตาม ทหารคนนั้นต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่มีการลงโทษ ทหารคนอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง สิ่งที่ตามมาก็คือกองทัพจะได้รับความเสียหาย
ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่ออิบลีสไม่ยอมก้มกราบอาดัมตามคำบัญชาของพระเจ้าผู้สร้างและผู้เป็นนายของมัน มันจึงต้องถูกลงโทษ อิบลีสรู้ตัวดี แต่มันได้ขอต่อพระเจ้าให้ประวิงเวลาการลงโทษออกไปก่อนจนถึงวันอวสาน ไม่เพียงเท่านั้น มันยังขอหลอกลวงอาดัมและลูกหลานของเขาอีกด้วยเพื่อให้พระองค์เห็นว่าลูกหลานอาดัมที่พระองค์ยกย่องนั้นมีน้อยคนนักที่จะเป็นผู้ขอบคุณพระองค์
คำขอของอิบลีสได้รับการอนุมัติ แต่พระองค์ย้ำว่ามันไม่สามารถหลอกลวงบ่าวผู้ศรัทธาของพระองค์ได้ หลังจากนั้น อิบลีสได้ถูกขับออกจากอาณาจักรของพระองค์
เมื่อวัตถุประสงค์ของการสร้างอาดัมคือเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์มนุษย์ การมีอาดัมผู้เป็นเพศชายอย่างเดียวย่อมเป็นไปไมได้ พระเจ้าจึงได้สร้างมนุษย์เพศหญิงชื่ออีฟหรือฮาวาขึ้นมาให้เป็นภรรยาของอาดัม
คัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานบอกเล่าตรงกันว่าพระเจ้าสร้างคู่ครองให้อาดัม แต่วิธีการสร้างแตกต่างกัน คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าพระเจ้าสร้างอีฟโดยดึงกระดูกซี่โครงของอาดัมออกมาในขณะที่เขานอนหลับ แต่คัมภีร์กุรอานมิได้เอ่ยชื่ออีฟและมิได้พูดถึงการชักกระดูกซี่โครง แต่ใช้คำว่า “คู่ครอง” และคู่ครองนี้ถูกสร้างจากชีวิตที่มีตัวตนแล้วทั้งร่างกายและวิญญาณ หรือจากอาดัมนั่นเอง
เมื่อสร้างคู่ครองให้อาดัมแล้ว พระเจ้าได้ให้คนทั้งสองอยู่ในสวนสวรรค์และจะกินอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในนั้น แต่อย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งมิได้ระบุชื่อไว้ ต้นไม้นี้เป็นหมือนสัญลักษณ์ที่เตือนว่าสิ่งใดที่พระเจ้าห้ามอย่าได้เข้าใกล้เพราะมันจะทำให้ถลำตัวทำความผิด

ต่อมา อิบลีสบิดาแห่งซาตานได้หลอกลวงอาดัมและอีฟว่าเหตุผลที่พระเจ้าห้ามเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้นก็เพราะหากทั้งสองกินผลของต้นไม้นั้น ทั้งสองคนจะมีชีวิตนิรันดร ทั้งสองหลงเชื่อ จึงถลำตัวกินผลไม้จากต้นไม้ต้องห้าม สิ่งที่ตามมาในคำบอกเล่าของคัมภีร์กุรอานก็คือเสื้อผ้าของอาดัมและอีฟหลุดออกจากร่าง ทั้งสองจึงเกิดความละอายจนต้องรีบดึงใบไม้มาปิดสิ่งพึงน่าละอายของตัวเอง
ตรงนี้ คัมภีร์กุรอานต้องการแทรกเรื่องจริยธรรมให้ผู้อ่านได้คิด นั่นคือ เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมและอีฟแล้ว พระองค์ได้ประทานเสื้อผ้าให้แก่คนทั้งสองเหมือนกับที่พระองค์ให้ขนเป็นเสื้อผ้าแก่สัตว์ จะต่างกันก็ตรงที่เสื้อผ้าของสัตว์ไม่ปกปิดอวัยวะเพศเท่านั้นและสัตว์ไม่มีความละอาย
การที่อาดัมและอีฟดึงใบไม้มาปกปิดสิ่งพึงน่าละอายของตัวเองแสดงว่าความละอายเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ดั้งเดิมในตัวของมนุษย์ ความละอายจึงทำให้มนุษย์แตกต่างไปจากสัตว์และนบีมุฮัมมัดได้มาย้ำว่าความละอายเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา ถ้าไม่มีความละอาย มนุษย์ก็ทำได้ทุกอย่าง
บทเรียนอีกอย่างหนึ่งจากเรื่องราวการสร้างอาดัมก็คือ อาดัมถูกอิบลีสล่อลวงให้ฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้า แต่เมื่อรู้ตัวว่าทำผิด อาดัมสำนึกผิดและขออภัยโทษต่อพระเจ้า ผิดกับอิบลีสที่ฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าเพราะความโอหังของมัน และทำผิดแล้วยังขอทำผิดต่อไปด้วยการขอหลอกลวงลูกหลานของอาดัม
คัมภีร์กุรอานเล่าต่อไปว่าเมื่ออาดัมขออภัยโทษในความผิด พระเจ้าได้ให้อภัยแก่เขาเพราะพระเจ้าเป็นผู้ทรงให้อภัยและผู้ทรงเมตตา
เหตุการณ์ตอนนี้ถูกเล่าขึ้นมาก็เพราะหลังสมัยพระเยซู ชาวคริสเตียนมีความเชื่อว่าบาปแรกเกิดขึ้นจากอาดัมและทำให้มนุษย์ผู้เป็นลูกหลานของเขามีบาปติดตัวมาแต่กำเนิด พระเยซูจึงถูกส่งมาเพื่อไถ่บาปของมนุษย์โดยการยอมถูกตรึงกางเขน ต่อมา ความเชื่อนี้ได้พัฒนาไปจนถึงขั้นเมื่อเกิดสงครามครูเสด โป๊ปถึงกับเป็นผู้ออกใบไถ่บาปให้แก่ชาวคริสเตียนที่ร่วมทัพไปทำสงครามครูเสด
ในคัมภีร์กุรอาน ใครทำบาป ผู้นั้นต้องรับผิดชอบต่อบาปที่ตัวเองทำ ไม่มีใครสามารถแบกบาปแทนกันได้ ถ้าใครจะขออภัยบาป คนผู้นั้นต้องขออภัยต่อพระเจ้าโดยตรง เพราะบาปคือการละเมิดกฎของพระเจ้า พระเจ้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการให้อภัย
You must be logged in to post a comment Login