- วัดสวนแก้วจัดงานต้อนรับปีใหม่Posted 15 hours ago
- ขอให้คนไทยมีสติPosted 2 days ago
- ธรรมะใช้ได้ทุกวงการPosted 2 days ago
- ช่วยขจัดเหตุความชั่วร้ายPosted 4 days ago
- ใครเป็นนายกฯตัวจริงPosted 7 days ago
- ชอบผู้นำสไตล์ไหนPosted 1 week ago
- เมื่อความเจ็บป่วยมาเยือนPosted 1 week ago
- ไต่บันไดทีละขั้นดีกว่าPosted 1 week ago
- เกิดเป็นคนต้องสู้Posted 2 weeks ago
- ความตายอย่ามาเยือนบ่อยPosted 2 weeks ago
14 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์ตบเท้า”หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” หวั่นเด็กไทยตกเป็นเหยื่อนิโคติน
กลุ่มแพทย์ 14 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์ พร้อมใจตบเท้าออกแถลงการณ์ “หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”หวั่นเด็กไทยตกเป็นเหยื่อนิโคตินหลังพบผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ก่อนตั้งท้องยันคลอด วอนรัฐคิดให้รอบคอบอย่าให้ปล่อยเสรีบุหรี่ไฟฟ้า สิ่งที่ได้จะไม่คุ้มเสีย หรือ อยากเห็นอนาคตของชาติไร้คุณภาพ ยกตัวอย่างเด็กหญิงวัย 11 ปีหวิดดับเพราะบุหรี่ไฟฟ้า
ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่และศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการเสวนาสื่อมวลชนและการแถลงข่าว “หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนให้รอดพ้นจากพิษภัยบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า อันจะนำไปสู่การมีสุขภาพและสติปัญญาที่ดีของเยาวชนในการที่จะพัฒนาประเทศชาติต่อไป
อึ้ง!!เด็กผู้หญิงวัย 11 ปีหวิดดับเพราะบุหรี่ไฟฟ้า
พล.ร.ต.หญิง พญ.สุพิชชา แสงโชติ ผู้แทนราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ยกกรณีตัวอย่างที่พบเป็นเด็กผู้หญิงวัย 11 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ควบคุมอาการของโรคได้ ในครอบครัวไม่มีใครมีประวัติการใช้ยา หรือสัมผัสสารเคมี ไม่สูบบุหรี่ มารักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยอาการเหนื่อยมากขึ้น ไอมากขึ้น มีเสมหะมาก ไม่มีไข้ เหนื่อยจนลุกเดินไม่ไหว ทานอาหารได้น้อยลงจึงมาที่โรงพยาบาล แพทย์ตรวจพบว่า ผู้ป่วยปากซีด อกบุ๋ม ไม่มีไข้ ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ผลเอกซเรย์ปอดพบว่า ภาวะปอดอักเสบ แพทย์รับรักษาตัวในห้องไอซียูกุมาร มีการติดเชื้อทั้งแบคทีเรียและไวรัส ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อยไม่ดีขึ้น มีภาวะหัวใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อหายใจและเครื่องช่วยหายใจ เมื่อได้รับการรักษาอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ใน 7 วัน
พล.ร.ต.หญิง พญ.สุพิชชา กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ป่วยเด็กพบว่า ผู้ป้วยเริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาได้ 6 เดือนก่อนป่วย โดยเพื่อนที่โรงเรียนชักชวนให้สูบ และผู้ปกครองไม่ทราบ เมื่อถามถึงสาเหตุที่สูบนอกจากเพื่อนชักชวนแล้ว ยังหาซื้อได้ง่ายจากร้านในซอยข้างบ้าน มีหลากหลายรสชาติ ผู้ป่วยจึงลองทุกรสชาติและใช้ในปริมาณที่สูงขึ้นตามลำดับเป็นการสูบทุกวัน ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก
ด้านผู้ปกครองของผู้ป่วยเด็ก แจ้งกับแพทย์ว่า สิ่งที่สังเกตได้ในระยะหลังคือ เด็กเปลี่ยนไป อารมณ์หงุดหงิดง่าย บางครั้งก้าวร้าว การเรียนแย่ลง ภายหลังจากออกจากโรงพยาบาลเด็กยังคงมีอาการไอ เสมหะ และเหนื่อยง่าย ไม่ปกติเหมือนเดิม ภาพเอกซเรย์ปอดยังคงมีรอบฝ้าขาวอยู่
ตัวอย่างข้างต้นคือ ผลกระทบของเด็กที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ด้าน พล.ร.ต.หญิง พญ.สุพิชชา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากแม่ที่ตั้งครรภ์ยังสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทารกที่อยู่ในครรภ์จะได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะประสิทธิภาพการทำงานสมองส่วนหน้า ลดลง 3-4 เท่า จะมีผลต่อการพูดจาโต้ตอบ การเกิด การควบคุมอารมณ์ การแก้ปัญหา และด้านความจำ ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ อาจแท้งได้ หรือทารกที่เกิดมามีสมาธิสั้น ปากแหว่ง น้ำหนักน้อย ไหลตาย เมื่อเทียบกับแม่ที่ไม่สูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์
วอนรัฐอย่าเปิดเสรีบุหรี่ไฟฟ้า
นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส รองประธานโครงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบฯ ภายใต้สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ของการระบาดบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน ที่สำรวจพบเด็กและเยาวชนจำนวนมากหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากค่านิยมในกลุ่มเพื่อนและการตลาดล่าเหยื่อที่ดึงดูด เช่น กลิ่นรสที่หลากหลายและรูปลักษณ์ที่น่าเย้ายวน ขอยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสารเสพติด ที่มีฤทธิ์ทำร้ายทุกระบบของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและเยาวชนที่สมองส่วนหน้ายังไม่พัฒนาเต็มที่ ส่งผลต่อพัฒนาการการคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ ความจำ สมาธิ การควบคุมอารมณ์และสุขภาพจิต แม้มีหลายประเทศที่อนุญาตให้ขายบุหรี่ได้ แต่ก็มีการออกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชน หรือจำกัดการโฆษณา เพื่อป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน แต่ยังคงมีช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เด็กสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้
นพ.วันชาติ กล่าวว่า จากพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวข้างต้น เนื่องในโอกาสวันแพทย์ไทย 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ประธานและผู้แทนจาก 14 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์แห่งประเทศไทย จึงร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ ดังนี้ 1.พวกเราจะมุ่งมั่นร่วมมือกันสนับสนุนให้ “คงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” โดยขอเรียกร้องให้รัฐสภา “คงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อคุ้มครองสุขภาพเด็ก และให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติมากกว่าผลกำไรและภาษี ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 2.พวกเราทุกราชวิทยาลัย จะร่วมมือกันส่งเสริมให้ “การไม่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า เป็นค่านิยมดูแลสุขภาพตนเองและผู้อื่น” ทั้งนี้ นอกเหนือจาก “หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” แล้ว พวกเราขอเรียกร้องและเชิญชวนให้คนไทยทุกคนตื่นตัว ออกมาปกป้องลูกหลานของเราเอง โดยใช้ “# คนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” เป็นวาระแห่งชาติ สำหรับคนไทยทุกคน จากนี้เป็นต้นไป จนกว่าสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณายืนยันการไม่ให้มีการนำเข้าและห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยต่อไป
นพ.วันชาติ กล่าวว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะเราห่วงอนาคตของประเทศชาติ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้ากำลังพุ่งเป้าไปที่เด็ก ซึ่งถ้าบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินเป็นส่วนประกอบหลักที่เด็กนิยม แล้วรัฐบาลยังจะไปเปิดโอกาสให้บุหรี่ไฟฟ้ามาขายได้โดยเสรี ยิ่งจะทำให้เด็กเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ขนาดปัจจุบันนี้ผิดกฎหมาย 100% เรายังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นจึงทำให้เด็กเข้าถึงได้ และถ้าเปิดโอกาสให้ขายได้อย่างเสรี รับรองเลยว่าสถิติที่เด็กจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“สิ่งที่ทางเครือข่ายกังวัลอยู่มาก คือ สำหรับการเรียกร้องไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้าหากไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐ เพราะว่าอำนาจรัฐ โดยเฉพาะ สส.ไปเอาแนวคิดและผู้ร่วมงานซึ่งติดนิโคตินและบางคนก็ทำตัวเป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้าเลยที่กำลังโฆษณาสรรพคุณของบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาเป็นกรรมาธิการ เครือข่ายมีความเป็นห่วงมาก แต่เราไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการที่จะไปต่อต้านตรงนั้น จึงต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์และหลักความจริงใจที่เป็นสาขาวิชาชีพแพทย์มาชี้แจง และหวังว่าในที่ประชุมสภาใหญ่ ที่นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปในวาระ4-5 นี้ จะช่วยกันเอาเรื่องดังกล่าวมาช่วยกันพิจารณาแล้วลงเสียงไม่ผ่านในสิ่งที่เขาอยากจะให้ทำคือ การนำเอาบุหรี่ไฟฟ้ามาขายอย่างเสรี หากเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายรัฐแล้ว ทางเครือข่ายก็มีแผนสำรอง คือ การใช้เสียงของประชาชน ว่าในเมื่อรัฐบาลจะทำร้ายประชาชน โดยการเอานิโคตินมาใส่สมองให้ลูกหลานเรา ประชาชนทั้งประเทศจะคิดอย่างไร” นพ.วันชาติ กล่าว
เปิดแถลงการณ์ ”หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”
14 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์จะมุ่งมั่นร่วมมือสนับสนุนให้คงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า โดยขอเรียกร้องให้รัฐสภา คงกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อคุ้มครองสุขภาพเด็กและให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติมากกกว่าผลกำไรและภาษี ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และทาง 14 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์ จะร่วมมือกันส่งเสริมให้การไม่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าเป็นค่านิยมดูแลสุขภาพตนเองและผู้อื่นทั้งนี้นอกเหนือจาก “หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” แล้ว ขอเรียกร้องและเชิญชวนให้คนไทยทุกคนตื่นตัวออกมาปกป้องลูกหลายของเราเองโดยใช้ # คนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวาระแห่งชาติ สำหรับคนไทยทุกคนจากนี้เป็นต้นไป จนกว่าสภาผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่ปกป้องกผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยและลูกหลานไทยอย่างแท้จริง
You must be logged in to post a comment Login