วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ตั้งใจทำให้ดี อย่าท้อ

On December 10, 2024

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม         

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 10  ธ.ค. 67)

เรื่องคะแนน เรื่องได้ เรื่องเสีย ได้แต้ม มันมีได้ มีเสียอยู่ได้เรื่อยๆ คราวนี้ ฝ่ายค้านยังไม่ทันเสียเท่าไร ก็มีเสียไปบ้าง แต่ฝ่ายรัฐบาลพอประกาศจะขึ้นแวต ขึ้นอะไร 15 เปอร์เซ็นต์นี่ก็กระสุนตก ทั้งภาคเอกชน นักวิชาการ และประชาชน ออกมาแสดงความคัดค้าน ต่อต้าน มะรุมมะตุ้ม ขย่มรัฐบาล  เรื่องนี้ก็น่าสงสาร คนดี กิจกรรมดี แต่เวลาทำดี มันจะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็มี เร็วพรวดพราดเลยก็มี

แต่พรวดพราด มันมีโอกาสที่จะเสี่ยง เสียแต้ม เสียคะแนน ถ้าค่อยๆขึ้นไปทีละขั้นๆ 1 2 3 ขึ้นไปคงจะไม่มีใครออกมาโจมตีเท่าไร แต่พอขึ้นตูมไปเป็นเท่าๆตัว แน่นอน ดีที่ท่านนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ถอย ถ้าไม่ถอยคงจะลำบาก แถลงว่า กำลังให้กระทรวงการคลังไปทำการศึกษาเรื่องนี้อยู่ ซึ่งการคิดจะทำอะไรแบบพรวดพราด ผลีผลาม โอกาสที่จะกระสุนตก เสียแต้ม มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ

เอาล่ะ เสียอะไรก็เสียไป อย่าให้เสียใจ เราคิดผิด คิดพลาด ประชาชนไม่ต้องการก็ปรับใหม่ ทำใหม่ ถอยหลังหน่อยจะเป็นไรไป เดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง มันปลอดภัย แต่จะเดินหน้าไปอย่างเดียวแบบกระโดดเข้าเลย อาจจะผิดพลาด เสียแต้ม เสียคะแนน ก็จะตกอยู่กับรัฐบาล ฝ่ายค้านเขาก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสพลาด เพราะไม่ได้บริหารงาน ไม่ได้คิดโน้น คิดนี่อะไรมากมาย แต่เขาก็ทำแบบไม่ผิด ไม่พลาดก็ดีไป

แต่ถ้าทำไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เขาออกอะไรมา เป็นนโยบายก็ดี เป็นอะไรก็ดีที่ทำแล้วมีจุดที่เขาจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ให้รัฐบาลต้องเสียแต้ม เสียคะแนนก็มี เอาล่ะ พวกที่หิวแสง พวกที่อะไรอาจแลเบาลงไปหน่อย แต่ยังมีอีกหลายฝ่าย หลายคนเห็นด้วยก็ชื่นชอบเชียร์ไป ไม่เห็นด้วยก็กระหน่ำซ้ำเติม ดังนั้นขอให้รู้จักคำว่า “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”  ใคร่ควรเสียก่อนแล้วค่อยทำดีกว่า

ใคร่ควรเสียก่อนทำดีกว่าทำแล้วมานั่งใคร่ครวญ อันนั้นทบทวนดูว่า มันไม่ถูกตามที่วิพากษ์วิจารณ์เขาว่า ก็ยังดีที่ว่า ท่านนายกฯยังรู้จักถอยหลัง แล้วค่อยดูจังหวะดีๆแล้วค่อยเดินหน้า แต่เดินทีละก้าว เพราะก้าวทีเดียว 10 ขั้น 9 ขั้น มันยาก อาจจะขาฉีกขาดพลัดตกล

งมา ทำอะไรแล้วนึกว่า จะให้แล้วดี มันก็ไม่แน่เสมอไป ที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เพราะให้ๆแจกๆ เงินคลังเลยไม่พอ อันนี้แล้วแต่ใครจะเห็นอย่างไร

หวังใจว่า เราคงมีรัฐบาลเป็นของประชาชน ประชาชนจะทำให้บ้านเมืองเจริญ เพราะรู้สึกรักรัฐบาลเป็นของเรา ถ้าประชาชนไม่รักรัฐบาลเป็นของเรา เอาแต่ต่อต้าน คัดค้าน เอาแต่ลงถนน มันจะกลายเป็นเรื่องเปลี่ยนความเจริญของชาติบ้านเมืองโดยไม่รู้สึกตัว ดังนั้น ขอให้ช่วยกันประคับประคองให้รัฐบาลได้ทำงานปีสองปีสามปี แล้วค่อยดูพิจารณาเป็นเรื่องๆ แต่เรื่องหนึ่งที่ประชาธิปไตยต้องพูดกันในสภาฯ นอกสภาฯมันเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์

ถ้าใคร่ครวญดีแล้วทำก็น่าจะโดนกระหน่ำซ้ำเติมน้อยหน่อย แต่ว่า ทำแล้วมันสำเร็จ ไม่สำเร็จ มันไม่หมุน ไม่กลิ้ง ไม่วิ่งตามที่เราคิดว่า หย่อนเงินตรงนี้ ไปตรงนี้ ตรงนี้เจองานวิ่ง งานเดิน ซึ่งเดินไม่เดินก็ไม่รู้ แต่ที่ผ่านๆมา มันเดินแวบเดียว วูบเดียว แล้วมันก็เหี่ยวออกไป อยากจะฝากว่า ตั้งใจทำให้ดี อย่าท้อ เดี๋ยวคงได้เห็นอะไรดีๆในบางส่วนบ้าง เพราะมันไม่เลวไปทุกส่วน และมันก็ไม่ดีที่สุดไปทุกส่วน มันจะต้องออกมาแล้วสะดุดหู สะดุดตา เขาก็วิพากษ์วิจารณ์ แต่รัฐบาลต้องไม่ท้อ

ถ้าท้อก็เป็นอันว่า ไม่ต้องบริหารบ้านเมือง บ้านเมืองก็ตกต่ำทางเศรษฐกิจ ทางสังคม จะนิยมหรือไม่นิยมรัฐบาล แต่หลวงพ่อพุทธทาสเคยพูดไว้ว่า ถ้ารัฐบาลรู้สึกทั้งหมด ทั้งสิ้นนี้ เป็นประชาชนของเรา ประชาชนในประเทศนี้เป็นของเรา ชาวบ้านรู้สึกรัฐบาลอย่างนี้ แล้วรัฐบาลก็รู้สึกว่า ประชาชนเป็นของเรา ไม่ใช่กลุ่มไหนไม่ให้คะแนนเสียงก็ไปพูดหลุดปาก ก็งบประมาณอย่าไปให้ที่นั่นมาก เพราะไม่ได้ให้คะแนนเรา อย่างนี้ทำให้เสียแต้มอีก ก็ต้องบอกว่า รัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลของทั้งประเทศไม่เลือกเหนือ เลือกใต้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login