วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ได้โบนัสประจำปีมา ควรเอาไปปิดยอดเงินกู้ธนาคารหรือลงทุนดี ?

On December 11, 2024

ช่วงสิ้นปีเป็นเวลาที่หลายคนรอคอยไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดพักผ่อน แต่ยังเป็นช่วงที่หลายๆ บริษัทจ่าย โบนัสประจำปี ให้กับพนักงาน เป็นเงินก้อนที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการใช้จ่าย หรือจะนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในอนาคต แต่บางคนก็อาจมีหนี้สิน เช่น เงินกู้ธนาคาร หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้กระทั่งหนี้บ้าน ทำให้เกิดคำถามว่า “เราควรนำเงินโบนัสไปปิดหนี้เงินกู้ธนาคาร หรือควรนำไปลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงินในอนาคตดีกว่า?”

1. วิเคราะห์ดอกเบี้ยของหนี้ที่คุณมี

ปัจจัยแรกที่คุณควรพิจารณาคือ อัตราดอกเบี้ย ของเงินกู้ธนาคารที่คุณมี เพราะโดยทั่วไปแล้ว การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือพันธบัตร อาจสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5-10% ต่อปี แต่ถ้าหนี้ของคุณมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่านี้ เช่น หนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 18-28% ต่อปี การปิดหนี้ก่อนจะช่วยให้คุณประหยัดเงินดอกเบี้ยได้มากกว่าผลตอบแทนจากการลงทุน

ตัวอย่าง:

  • หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท ที่ดอกเบี้ย 20% ต่อปี คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 20,000 บาทต่อปี
  • ในขณะที่หากคุณนำเงิน 100,000 บาทไปลงทุนในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี คุณจะได้รับผลตอบแทนเพียง 8,000 บาทต่อปี

ในกรณีนี้ การปิดหนี้จะช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่า นั่นคือการลดภาระดอกเบี้ย 20,000 บาท เมื่อเทียบกับการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 8,000 บาท

2. สถานะการเงินและความเสี่ยง

นอกจากเรื่องดอกเบี้ยแล้ว คุณควรประเมินสถานะการเงินของตัวเองด้วย เช่น คุณมี กองทุนสำรองฉุกเฉิน ไว้เพียงพอหรือไม่? หากยังไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน คุณควรแบ่งเงินโบนัสบางส่วนมาเก็บเป็นเงินสำรองก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นการปิดหนี้เงินกู้ธนาคาร หรือการลงทุน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น คุณยังคงต้องการสภาพคล่องในการใช้ชีวิต

3. โอกาสในการลงทุน

หากคุณไม่มีหนี้เงินกู้ธนาคารที่ดอกเบี้ยสูง หรือมีเพียงหนี้บ้านที่ดอกเบี้ยต่ำ (เช่น 3-5% ต่อปี) คุณอาจพิจารณานำเงินโบนัสไปลงทุนแทน เพราะสินทรัพย์ลงทุนบางประเภท เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือ พันธบัตรรัฐบาล อาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว

กลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจ:

  • การลงทุนในกองทุนรวมดัชนี (Index Fund): เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีตลาด เช่น SET50
  • การลงทุนในหุ้นปันผล: สำหรับผู้ที่ต้องการรายได้เสริมจากปันผล หุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลสม่ำเสมอจะช่วยสร้างกระแสเงินสดได้
  • การลงทุนในพันธบัตรหรือกองทุนตราสารหนี้: หากคุณต้องการการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ การลงทุนในพันธบัตรจะช่วยปกป้องเงินต้นและให้ผลตอบแทนที่มั่นคง

4. ความสบายใจและเป้าหมายทางการเงิน

บางครั้งการตัดสินใจไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องของ ความสบายใจทางจิตใจ หากคุณรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการมีเงินกู้ธนาคาร การใช้โบนัสเพื่อปิดหนี้ก็อาจทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น มีความสุขและมีความมั่นคงทางการเงินมากกว่า แม้ว่าผลตอบแทนทางการเงินอาจไม่สูงเท่ากับการลงทุน

สรุป: ควรปิดหนี้เงินกู้ธนาคารหรือควรลงทุน ?

หากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ ลองใช้แนวทางต่อไปนี้:

  • ปิดหนี้ก่อน ถ้าหนี้เงินกู้ธนาคารของคุณมีดอกเบี้ยสูงกว่า 8% ต่อปี หรือทำให้คุณเครียดและกังวลใจ
  • เก็บเงินสำรองฉุกเฉินก่อน หากคุณยังไม่มีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน
  • ลงทุน หากคุณไม่มีหนี้เงินกู้ธนาคารดอกเบี้ยสูง และต้องการเพิ่มมูลค่าเงินในระยะยาว

สิ่งที่สำคัญคือการทำแผนการเงินที่ชัดเจน และใช้โบนัสให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสถานะทางการเงินและเป้าหมายชีวิตของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนก็ตาม ขอให้คุณสามารถจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณในที่สุด


You must be logged in to post a comment Login