- ต้องควบคุมผัสสะให้ดีPosted 1 day ago
- วัดสวนแก้วจัดงานวันเด็กปี 68Posted 2 days ago
- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 3 days ago
- สร้างบารมีพาอยู่เย็นเป็นสุขPosted 4 days ago
- ต้องทำชีวิตให้ดีกว่าเก่าPosted 5 days ago
- สิ่งที่อยากเห็นในปี 68Posted 1 week ago
- เล่นอะไรที่สร้างสรรค์ดีกว่าPosted 1 week ago
- ปีใหม่ขอให้มีสติปัญญาใหม่ๆPosted 1 week ago
- ความรู้วิเศษช่วยลดทุกข์Posted 2 weeks ago
- แก้สันดานหัวดื้อให้หายดื้อPosted 2 weeks ago
สสส. สานพลังภาคี เปิดบ้านจัดกิจกรรม “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน”
เด็กไทยป่วยซึมเศร้าทะลุ 2,200 คน ต่อประชากรแสนคน เสี่ยงทำร้ายตัวเอง 17.4% ซ้ำเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพจิต “วันเด็ก ปี 68 ” สสส. สานพลังภาคี เปิดบ้านจัดกิจกรรม “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน” ชวนเด็ก-เยาวชน-พ่อแม่-ผู้ดูแลเด็ก ทำกิจกรรมเล่านิทาน วาดภาพ จัดดอกไม้ สร้างสุขภาวะดีทั้งร่างกาย-จิตใจ-จิตวิญญาณ เพิ่มความผูกพันในครอบครัว
เวลา 09.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สานพลังภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน จัดกิจกรรม “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568” ภายใต้โครงการโมเดลวิทยากรต้นแบบศิลปะด้านในเชิงลึกเพื่อขยายชุมชนการเรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะเด็กก่อนวัยรุ่น เปิดพื้นที่ให้เด็ก เยาวชน พ่อแม่ และผู้ดูแลเด็กได้เรียนรู้ศิลปะด้านใน ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการดีสมวัย เพิ่มความผูกพันในครอบครัว และสร้างแรงบันดาลใจในการนำองค์ความรู้ศิลปะไปใช้สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับเด็ก ครอบครัว และชุมชน
น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไทยยังคงเป็นปัญหาใหญ่และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากรายงานการสังเคราะห์ชุดนโยบายสุขภาพจิตของประชากรชาวไทยภายใต้บริบทหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2567 โดย สสส. และศูนย์ความรู้นโยบายสาธารณะเพื่อการเปลี่ยนแปลง พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ มีการเพิ่มขึ้นจาก 6.11 คนต่อประชากรแสนคนในปี 2560 เป็น 7.94 ในปี 2566 โดยกลุ่มเยาวชนอายุ 15-19 ปี พยายามฆ่าตัวตายมากที่สุด คิดเป็นอัตรา 116.8 คนต่อประชากรแสนคน สอดคล้องกับข้อมูลศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแพทย์ด้านจิตเวชที่ประเมินว่า มีเยาวชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจพบอาการซึมเศร้าสูงถึง 2,200 คนต่อประชากรแสนคน นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กและเยาวชนเข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้ยาก เพราะจำเป็นต้องใช้จิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งประเทศมีเพียง 295 คน และกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ไปแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งหมด
“เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 สสส. ร่วมกับภาคีขับเคลื่อนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชนจัดกิจกรรม ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้เด็กและเยาวชนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผ่านการใช้กระบวนการศิลปะ เช่น การเล่านิทาน การวาดภาพระบายสี และการจัดดอกไม้ ในขณะที่ทำงานศิลปะ เด็กจะได้พบความเบิกบาน ความงดงาม และความสงบในใจ ได้ทบทวนและมีสมาธิอยู่กับตัวเอง ผู้ปกครองที่เข้าร่วมจะได้รับองค์ความรู้ ได้สัมผัสสุนทรียะของศิลปะ สำหรับใช้ส่งเสริมศักยภาพและสร้างพัฒนาการของเด็กได้เหมาะสมตามช่วงวัย และผู้ทำงานด้านเด็กจากทั่วประเทศ จะได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนเครื่องมือศิลปะด้านในเพื่อการจิตใจและจิตวิญญาณที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและเด็กในวัยเรียน พร้อมเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่จะสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับ บุคคล ครอบครัว พร้อมขยายผลสู่ชุมชน และสังคม สร้างโอกาสให้เด็กมีสุขภาวะที่ดีอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป” น.ส.ณัฐยา กล่าว
นายอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี หัวหน้าโครงการโมเดลวิทยากรต้นแบบศิลปะด้านในเชิงลึกเพื่อขยายชุมชนการเรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะเด็กก่อนวัยรุ่น กล่าวว่า เด็กและเยาวชนไทยปัจจุบันถูกคาดหวังให้สมบูรณ์แบบ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสนใจเฉพาะเรื่องวิชาการ ขาดทักษะการเลี้ยงลูกและระบบการศึกษาไม่รักษาความเป็นธรรมชาติของวัยเด็ก ส่งผลให้เด็กขาดอิสระ เกิดความเครียดสะสม กระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิต จากรายงานผลสำรวจข้อมูลกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี 503,884 ราย โดยกรมสุขภาพจิต ผ่านแอปพลิเคชัน Mental Health Check-in ระหว่างเดือน ก.พ. 2565-ต.ค. 2567 พบเด็กเสี่ยงทำร้ายตนเอง 17.4% เสี่ยงป่วยซึมเศร้า 10.28% การจัดกิจกรรม ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. จัดขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการสร้างการเรียนรู้สําหรับเด็กไทยอย่างเป็นองค์รวม สอดคล้องกับแนวคิดการสร้างสุขภาวะองค์รวม โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่เพียงแค่ส่งเสริมสุขภาพร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจและจิตวิญญาณด้วย
“ภายในงานมีกิจกรรม 4 โซนไฮไลท์ 1.โซนกิจกรรมวงกลมยามเช้า (Morning Circle) เป็นการละลายพฤติกรรม ให้เด็กและผู้ปกครองเกิดการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวด้วยบทกลอน และเสียงเพลง 2.โซนเล่านิทานเสริมสร้างจินตภาพ ฟังการเล่านิทานจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด 3.โซนสีขี้ผึ้งธรรมชาติ ชวนน้องๆ วาดภาพด้วยสีขี้ผึ้งจากธรรมชาติ เน้นส่งเสริมจินตภาพ และรักษาความเป็นอิสระในวัยเด็ก 4.โซนดอกไม้จัดใจคน ส่งเสริมให้เด็กได้จัดดอกไม้ตามจินตนาการ ส่งเสริมในเรื่องการมีอิสระด้านความคิด โดยไม่ถูกตีกรอบจากผู้ใหญ่ ทั้งนี้ สำหรับผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กที่สนใจนำเครื่องมือศิลปะด้านในจิตใจและจิตวิญญาณไปใช้ขับเคลื่อนงานเพิ่มทักษะชีวิต ทักษะสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาวะองค์รวมในเด็ก เยาวชน และครอบครัว ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ศิลปะด้านใน” นายอนุพันธุ์ กล่าว
You must be logged in to post a comment Login