- ให้รางวัลทางศีลธรรมบ้างPosted 14 hours ago
- เลิกเป็นทาสยาเสพติดPosted 2 days ago
- ต้องรู้ทันแก็งค์คอลเซ็นเตอร์Posted 5 days ago
- อวิชชาบังตาPosted 6 days ago
- รักษาราชประเพณีPosted 7 days ago
- สำนึกผิด โอกาสเป็นบัณฑิตได้Posted 1 week ago
- ระวังฟืนไฟให้ดีPosted 1 week ago
- ต้องควบคุมผัสสะให้ดีPosted 2 weeks ago
- วัดสวนแก้วจัดงานวันเด็กปี 68Posted 2 weeks ago
- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 2 weeks ago
ทำไมซื้อ “บ้านเพื่อคนไทย” เป็นบาป
คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 21 ม.ค. 68)
ทำไม ดร.โสภณ พรโชคชัยจึงกล่าวว่า ซื้อ “บ้านเพื่อคนไทย” มันบาปหนัก มาฟังเหตุผลให้ชัดเจนกัน
ในแง่หนึ่งรัฐบาลสามารถจัดสรรที่ดินให้ประชาชน แต่ต้องให้เฉพาะคนยากจน เช่น กรณีป่าเสื่อมโทรม รัฐก็อาจแจกเป็น ส.ป.ก.4-01 ให้กับคนจนไว้ทำกิน สร้างตัว เพื่อว่าพวกเขาจะได้ไม่กลายเป็นโจร ไม่ไปเบียดเบียนสังคมที่พาลจะทำให้คนไม่จนเดือดร้อนไปด้วยนั่นเอง
แต่สำหรับคนไม่จน รัฐไม่จำเป็นต้องจัดสรรให้ ขืนให้ไปก็เหมือนกรณีแจก ส.ป.ก.ให้กับคนไม่จนที่ภูเก็ตจนรัฐบาลในสมัยนั้นต้องลาออก ศาลฎีกาก็ตัดสินมาแล้วให้คืนที่ดิน รัฐเองก็มีงบประมาณจำกัด ไม่สามารถจัดสรรให้ครบถ้วน การให้ไปบางส่วนก็เป็นเพียงการหาเสียง จะเกิด “ฝนตกไม่ทั่วฟ้า” สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมขึ้นมาอีก ยิ่งกรณีนำที่รถไฟไปแจกยิ่งไม่สมควร
แต่บางคนอาจมองว่ากรณีบ้านเพื่อคนไทย ไม่ได้แจกที่ดินแต่ซื้อ (เซ้ง) เอา แต่ก็ได้ในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ที่ดินตรงหลัง ป.ต.ท. ขนาด 15 ไร่นั้น ราคาตลาดน่าจะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท รัฐบาลกลับไปเช่ากับการรถไฟเป็นเงินเพียงไม่ถึง 100 ล้านบาทสำหรับการอยู่ 99 ปี (ซึ่งก็ยังไม่มีกฎหมายรองรับ) ถ้านำไปสร้างห้องชุด 1,232 หน่วย ก็เท่ากับว่าแต่ละห้องได้ไปห้องละเกือบ 1.5 ล้านบาทแทบฟรีๆ นี่สมควรหรือ
บางคนก็อาจบอกว่าการรถไฟมีที่มากมาย เอามาใช้ประโยชน์แค่นิดเดียวเอง แต่ที่นี่ราคาแสนแพง ถ้าอยากเช่าที่รถไฟในราคาถูกๆ ก็ต้องไปไกลๆ และไม่มีใครอยากไปเช่าอยู่ดี ที่ตรงนี้การรถไฟก็มีแผนจะใช้ประโยชน์ในทางอื่นซึ่งให้ผลตอบแทนสูง สามารถนำเงินไปพัฒนาการรถไฟเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมได้ การรถไฟเองก็มีหนี้อีก 2 แสนล้านบาท ถ้ารัฐเอาที่ดีๆ ของการรถไฟไปแทบหมด การรถไฟก็ยิ่งเจ๊งเข้าไปอีก ดูอย่างกรณีเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ดินแค่ 47 ไร่พร้อมอาคาร การรถไฟยังได้ค่าเช่าล่าสุดเกือบ 1,400 ล้านบาทต่อปี
บ้างก็ว่าเป็นสิทธิ์ของเราที่รัฐบาลหยิบยื่นให้ ดร.โสภณยืนยันว่ามันไม่ใช่สิทธิ์ของเรา ที่หลวงนั้นประชาชนทุกคนล้วนเป็นเจ้าของร่วมกัน รัฐกลับใช้อำนาจเช่ามาในราคาแสนถูก การรถไฟก็เวนคืนที่ดินมา จ่ายค่าทดแทนเรียบร้อย กลับเอาไปใช้หาเสียง อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ รัฐบาลจะถูกฟ้องร้องในภายหลังหรือไม่ ผู้ครอบครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่
เราจะอ้างความจนแต่หวังคว้าโอกาสทำเงินเกือบ 1.5 ล้านบาทต่อหน่วยด้วยวิธีจับสลาก แล้วอีก 5 ปีก็ขายต่อได้กำไรอีกต่าง แต่คนจนจริงๆ คงจับไม่ได้หรอกเพราะรัฐบาลออกคุณสมบัติหลวมๆ เช่น คนที่มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาท ก็มาจับสลากได้ ทั้งที่รายได้ต่อครัวเรือนของคนกรุงเทพฯ ก็แค่ 40,000 บาทเท่านั้น แต่ละบ้านมาลงชื่อกันกี่คนก็ได้ ไม่จำกัดอายุสูงสุดของคนซื้อ คนทั่วประเทศก็มาได้ (จับได้ก็คงไม่มาอยู่) การที่มีคนมาจับสลากมากๆ ก็จะได้เป็นข้ออ้างให้รัฐสร้างอีกมากๆ นับล้านหน่วย
การสร้างบ้านเพื่อคนไทยนี้ยังอาจทำให้การรถไฟยิ่งเจ๊งหนักเพราะเอาที่ดีๆ ไปเซ้งถูกๆ กันหมด การเคหะฯ ก็คงเจ๊งอีกเพราะเขามีหน้าที่สร้างบ้านให้คนจนแต่รัฐกลับแย่งงานไปให้การรถไฟที่ไม่มีประสบการณ์ทำแทน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็อาจเจ๊งที่ต้องปล่อยกู้ตามคำสั่งของรัฐบาลโดยใช้ดอกเบี้ยเงินกู้แค่ 2.5% เป็นเวลา 30 ปี ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงถึง 2% แล้ว
เราในฐานะปุถุชนก็ย่อมหวังลาภลอย แต่เราก็ต้องพยายามเป็นวิญญูชน พึงมีหิริโอตตัปปะไม่ไปซื้อบ้านเพื่อคนไทยเพราะบาปหนัก เบียดเบียนสมบัติของแผ่นดิน แม้เราจะยากจน เราก็ต้องมีศักดิ์ศรี อย่าเห็นแก่ลาภที่ไม่ควรได้นี้ มันไม่เป็นมงคลต่อชีวิต เราควรจะช่วยกันคิดว่าแม้เราจะยากจน เราควรทำอะไรเพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนของเราบ้าง
โปรดอย่าถามว่าประเทศของเราทำอะไรให้เราได้บ้าง ให้ถามว่าเราจะสามารถทำอะไรเพื่อประเทศของเราได้บ้าง
หมายเหตุทางออก:
กรณีบ้านเพื่อคนไทยที่หลัง ป.ต.ท.จตุจักร แถวนั้นก็ยังมี
1. ห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท (ตามราคาที่รัฐจะสร้าง) ที่ในมือผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินถึง 1111 หน่วย ซึ่ง ดร.โสภณได้ทำรายชื่อโครงการพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้ผู้สนใจไปซื้อหาเองได้เลยตาม link นี้ www.area.co.th/t/8461
2. ทั่วกรุงเทพฯ ยังมีโครงการบ้านและห้องชุดไม่เกิน 3 ล้านนับแสนหน่วยพร้อมขาย ซึ่ง ดร.โสภณก็ให้รายชื่อโครงการพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ไว้เช่นกัน โปรดดู www.area.co.th/t/8465
3. ยิ่งกว่านั้นทั่วกรุงเทพฯ ยังมีบ้านมือสองในมือชาวบ้านเองไม่น้อยกว่า 2 ล้านหน่วยที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อย่างห้องชุดมือสองบางแห่งแถวลาดพร้าว โชคชัย 4 ยังมีราคาขายเพียงไม่ถึง 3 แสนบาท
จากข้อมูลข้างต้น รัฐไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณไปสร้างใหม่เลย เพียงส่งเสริมให้ประชาชนไปซื้อบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก ผู้ที่ขายบ้านได้ก็จะได้นำเงินไปใช้หนี้ ใช้เพื่อการศึกษาหรือต่อทุนทำธุรกิจ เศรษฐกิจก็จะหมุนเวียน
หากรัฐบาลตั้งกองทุนขึ้นมาช่วยซื้อบ้านของชาวบ้านที่จำเป็นต้องขายในราคา 80% ของราคาตลาด ชาวบ้านก็จะได้มีเงินไปใช้หนี้ หรือลงทุนทางอื่น รัฐบาลก็นำบ้านมาปรับปรุงแล้วขายต่อในราคา 90% ทุกฝ่ายก็ได้ประโยชน์กว่าการสร้างบ้านเพื่อคนไทย ยิ่งกว่านั้นหากรัฐบาลประกาศไปว่าจะให้คนจนที่ซื้อบ้านได้ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถได้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แค่ 2.5%-4% จาก 6%-7% เช่นในปัจจุบัน ทุกฝ่ายก็จะได้ประโยชน์กันทั่วหน้า
You must be logged in to post a comment Login