- ปากท้อง-ยานรกหนักสุดในชีวิตPosted 9 hours ago
- ขอให้ชีวิตอยู่ได้ทุกสถานการณ์Posted 1 day ago
- กันไว้ดีกว่าแก้Posted 2 days ago
- ให้รางวัลทางศีลธรรมบ้างPosted 3 days ago
- เลิกเป็นทาสยาเสพติดPosted 4 days ago
- ต้องรู้ทันแก็งค์คอลเซ็นเตอร์Posted 1 week ago
- อวิชชาบังตาPosted 1 week ago
- รักษาราชประเพณีPosted 1 week ago
- สำนึกผิด โอกาสเป็นบัณฑิตได้Posted 1 week ago
- ระวังฟืนไฟให้ดีPosted 2 weeks ago
“วราวุธ” คุมบอร์ดคุ้มครองเด็กแห่งชาติ สั่งเห็นชอบ 3 มาตรการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็ก
“วราวุธ” คุมบอร์ดคุ้มครองเด็กแห่งชาติ สั่งเห็นชอบ 3 มาตรการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็ก ลุยปราบร้านบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา ดำเนินคดีกับผู้ปกครองที่ส่งเสริมให้เด็กขายหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า
วันที่ 24 ม.ค. 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้พิจารณาว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมาอัตราการเกิดของประชากรไทยลดต่ำลงอย่างมาก และนับว่าต่ำที่สุดในรอบ 75 ปี โดยข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุถึงข้อมูลประชากรไทย ปี 2567 มีทั้งสิ้น 65,951,210 คน และมีการเกิดของประชากรใหม่เพียง 462,240 คน จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง หากประเทศไทยมีแนวโน้มการเกิดที่ต่ำลง และเด็กที่เกิดมายังต้องเผชิญกับปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้า ในมิติคุณภาพชีวิต หรือครอบครัวและการอนามัยเจริญพันธ์ รวมถึงการพัฒนาประเทศชาติจะทำได้มีประสิทธิภาพหรือไม่เพราะเด็กและเยาวชนสูญเสียสุขภาพตั้งแต่ก่อนวัยอันควรจากบุหรี่ไฟฟ้า
“พม. ตระหนักถึงปัญหาและติดตามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน
มาโดยตลอด ซึ่งจากข้อมูลจากสถาบันยุวทัศน์ฯ ที่นำเสนอวันนี้สะท้อนให้เห็นความน่าเป็นกังวลอย่างยิ่งโดยเฉพาะการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กอายุยังน้อยและในเด็กผู้หญิง ทั้งนี้จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมกิจการเด็กและเยาวชน และหน่วยงานในจังหวัดเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามมติของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติต่อไป” รมว. พม. กล่าว
ด้านนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ทำงานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้มี 3 มาตรการที่ขอให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ประกอบไปด้วย
1.ให้คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด “คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก” ผ่านการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็ก โดยเฉพาะร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 26 (10) ผู้ปกครองต้องไม่กระทำการ จำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก เว้นแต่การปฏิบัติทางการแพทย์
นายพชรพรรษ์ กล่าวต่อว่า 2.บังคับใช้กฎหมายกับ “ผู้ปกครอง” ที่จงใจหรือละเลยปล่อยให้เด็กและเยาวชน “ซื้อใช้หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า” ความผิดตามมาตรา 25 (4) ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก และมาตรา 26 (3) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และ 3.มอบหมายให้กองทุนคุ้มครองเด็กทั้งส่วนกลางและภูมิภาค สนับสนุนงบประมาณ
ให้หน่วยงานท้องที่หรือหน่วยงานอื่นๆ สำหรับการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มผู้ปกครอง เด็ก และเยาวชน เกี่ยวกับผลกระทบหรือภัยทางสุขภาพจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่ยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย
You must be logged in to post a comment Login