- ถึงเวลาจัดการให้สิ้นซากPosted 16 hours ago
- ผลงานชาวพุทธPosted 1 day ago
- เสียเวลาพัฒนาชาติPosted 2 days ago
- ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาPosted 3 days ago
- ปากท้อง-ยานรกหนักสุดในชีวิตPosted 6 days ago
- ขอให้ชีวิตอยู่ได้ทุกสถานการณ์Posted 1 week ago
- กันไว้ดีกว่าแก้Posted 1 week ago
- ให้รางวัลทางศีลธรรมบ้างPosted 1 week ago
- เลิกเป็นทาสยาเสพติดPosted 1 week ago
- ต้องรู้ทันแก็งค์คอลเซ็นเตอร์Posted 2 weeks ago
“หมอประกิต”วอนนายกฯ-สส.คงมาตรการห้ามบุหรี่ไฟฟ้า
ฟิลิปปินส์อ่วมหนัก เก็บภาษียาสูบได้ลดลงเกือบ 25% นักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 9.5 ล้านคน หลังบุหรี่ไฟฟ้าขายได้ถูกกฎหมาย ห่วงไทยเดินตามรอย วอนนายกฯ สส. คงมาตรการห้ามบุหรี่ไฟฟ้า
วันที่ 29 ม.ค. 2568 ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการจัดหารายได้เพื่อใช้เป็นงบประมาณ ( Committee on Ways and Means) ของวุฒิสภา โดยวุฒิสมาชิก Sherwin Gatchalian ประเทศฟิลิปปินส์ เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า รายได้ภาษียาสูบของฟิลิปปินส์ที่เท่ากับ 179.49 พันล้านเปโซ (104,100 ล้านบาท) ในปี 2564 ลดลงเหลือ 134.91 พันล้านเป็นโซ (78,200 ล้านบาท) ในปี 2566 หรือเท่ากับลดลง 24.8% ในขณะที่ฟิลิปปินส์มีนักสูบหน้าใหม่ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้น 9.5 ล้านคน โดยเป็นวัยรุ่นมากถึง 1 ล้าน และอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 14% ในปี 2564 เป็น 18.9% ในปี 2566
“วุฒิสมาชิก Sherwin Gatchalian ได้ระบุว่า รายได้ภาษีที่ลดลงทั้งๆ ที่จำนวนผู้สูบบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น มาจากการระบาดของบุหรี่ผิดกฎหมาย ทั้งบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า สว.ท่านนี้เสนอให้รัฐบาลขึ้นภาษีบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดและอุดช่องโหว่ที่ทำให้มียาสูบผิดกฎหมาย เพื่อรัฐจะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น และคนสูบบุหรี่ลดลง ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ให้บุหรี่ไฟฟ้าขายได้ถูกกฎหมาย และปรับปรุงกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในปี 2565 ด้วยการลดอายุคนซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากเดิม 21 ปี ลดเป็น 18 ปี ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าขายได้ถูกหมาย ทั้งชนิดที่ใช้ความร้อน (Heated Tobacco Products) และชนิดที่ใช้น้ำยา จากการวิ่งเต้นอย่างหนักของธุรกิจบุหรี่ ด้วยข้ออ้างที่ว่าเพื่อรัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า สำหรับไทย สภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าฯ ที่จะเสนอทางเลือกนโยบายกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย 3 แนวทาง คือ 1.ให้คงกฎหมายห้ามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด 2.เปิดให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่ใช้ความร้อนอย่างถูกกฎหมาย 3.เปิดให้บุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดขายได้ถูกกฎหมาย ด้วยข้ออ้างว่า เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน ขณะที่รัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
“ผมอยากให้ สส. รวมทั้งท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรัฐบาล ได้รับทราบสิ่งที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์เกี่ยวกับนโยบายบุหรี่ไฟฟ้า เพราะหากสภาผู้แทนราษฎร ใครจะรับประกันว่า หากยกเลิกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าตามข้อ 2 และข้อ 3 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในไทย จะไม่เหมือนที่เกิดขึ้นแล้วในฟิลิปปินส์ และใครจะต้องเป็นคนที่รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น จากรายได้ภาษีที่ลดลง และจำนวนนักสูบหน้าใหม่ที่เป็นเด็กและเยาวชนจะเพิ่มขึ้น อย่างที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ในขณะนี้” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
อ้างอิง
https://newsinfo.inquirer.net/2027276/new-pinoy-smokers-hit-9-5m-from-2021-to-2023
You must be logged in to post a comment Login