- อย่าคิดทำลายชีวิตPosted 13 hours ago
- ถึงเวลาจัดการให้สิ้นซากPosted 2 days ago
- ผลงานชาวพุทธPosted 2 days ago
- เสียเวลาพัฒนาชาติPosted 3 days ago
- ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาPosted 4 days ago
- ปากท้อง-ยานรกหนักสุดในชีวิตPosted 1 week ago
- ขอให้ชีวิตอยู่ได้ทุกสถานการณ์Posted 1 week ago
- กันไว้ดีกว่าแก้Posted 1 week ago
- ให้รางวัลทางศีลธรรมบ้างPosted 1 week ago
- เลิกเป็นทาสยาเสพติดPosted 2 weeks ago
สิ่งที่เหมือนกันในคัมภีร์ศาสนา
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 ม.ค. 67)
นบีมุฮัมมัดกล่าวไว้เมื่อประมาณ 1,400 ปีที่แล้วว่าก่อนหน้าท่านขึ้นไปจนถึงอาดัม พระเจ้าได้ให้มีบรมครูมาสอนการดำเนินชีวิตแก่มนุษย์ตามชุมชนต่างๆทุกยุคทุกสมัยเป็นจำนวน 124,000 คน บรมครูเหล่านี้ในภาษาอาหรับเรียกว่า “นบี” ซึ่งหมายถึงผู้บอกข่าวหรือผู้ตักเตือน
ในจำนวนนบีทั้งหมดนี้ พระเจ้าได้ประทานวจนะที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรจำนวน 313 เล่ม นบีคนใดได้รับคัมภีร์ก็ถูกถือว่าเป็นศาสนทูต(รอซูล หรือ Messenger)ของพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม แม้คัมภีร์ดังกล่าวจะมีอยู่ไม่ครบและที่มีอยู่อาจไม่สมบูรณ์เหรือไม่เหมือนเดิม แต่ในทุกคัมภีร์จะมีร่องรอยให้ผู้ศึกษาได้เห็นถึงสิ่งที่เหมือนกันและคล้ายกันอย่างหนึ่ง นั่นคือ ความเชื่อในการมีอยู่เพียงหนึ่งเดียวของพระเจ้าในฐานะผู้สร้าง และโลกหลังความตายที่เรียกด้วยคำพูดที่ต่างกัน
.ในคัมภีร์พระเวทที่ถูกบันทึกเป็นภาษาสันสกฤตโบราณ เมื่อถูกแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษ เราพบข้อความที่มีความหมายดังนี้
“พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีที่สอง” (จันโทคยา อุปนิษัท 6:21)
“ไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์” (เศวตะสะอวตาร อุปนิษัท 4:19)
“พระองค์ทรงไม่มีเรือนร่างและทรงบริสุทธิ์” (ยชุรเวท 40:8)
“พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่” (อถรรพเวท 20 58:3)
“พระเจ้าองค์เดียว ไม่มีผู้ใดที่สมควรได้รับการกราบไหว้นอกจากพระองค์ โลกนี้ไม่มีอะไรหากปราศจากพระองค์ มันยังคงอยู่ตราบใดที่พระองค์ทรงรักษามันไว้ โลกไม่สามารถดำรงอยู่ได้ชั่วขณะโดยการปฏิเสธพระองค์” (อุปนิษัท)
ในคัมภีร์ไบเบิล แม้ภาษาต้นฉบับจะไม่ปรากฏอยู่ แต่ในในฉบับแปล เราพบข้อความที่มีความหมายคล้ายๆกันดังนี้
“พระเจ้าคือพระเยโฮวาห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และทรงขึงมัน ผู้ทรงแผ่แผ่นดินโลกและสิ่งที่บังเกิดจากโลก” (อิสยาห์ 42:5)
“พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าในฟ้าสวรรค์และบนแผ่นดินเบื้องล่างหามีพระเจ้าอื่นใดอีกไม่เลย” (เฉลยธรรมบัญญัติ 4:39)
“ท่านเรียกเราว่าประเสริฐทำไม?” พระเยซูตรัสถามคนนั้น “ไม่มีใครประเสริฐเว้นแต่พระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น” (มาระโก 10:18)
“อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปใด อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น อย่าออกนามพระเจ้าอย่างไม่สมควร” (อพยพ 20 :3)
เมื่อมาดูคัมภีร์กุรอานที่อยู่ในภาษาอาหรับดั้งเดิมและไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง เราจะพบข้อความที่มีความหมายคล้ายๆกับคัมภีร์พระเวทและคัมภีร์ไบเบิลดังนี้
จงกล่าวเถิด “พระเจ้า(อัลลอฮฺ)ทรงเป็นหนึ่งเดียว พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของสิ่งทั้งมวลพระองค์มิได้ทรงให้กำเนิดผู้ใด และพระองค์มิได้ทรงถูกผู้ใดกำเนิดและไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์” (อัลกุรอาน 113:1-4)
ที่กล่าวมาคือเหตุผลที่ว่าทำไมมุสลิมจึงถูกกำหนดให้ศรัทธาในบรรดาคัมภีร์ก่อนหน้าคัมภีร์กุรอาน เพราะคัมภีร์ก่อนหน้านี้บันทึกความจริงเรื่องพระเจ้าไว้ แต่มุสลิมถูกกำหนดให้ศรัทธาว่าคัมภีร์กุรอานเป็นวจนะครั้งสุดท้ายของพระเจ้าที่มีมายังมนุษย์เพื่อยืนยันและกลั่นกรองเนื้อหาในคัมภีร์ก่อนหน้านี้
You must be logged in to post a comment Login