7 วิธีอัปเดตโปรไฟล์สมัครงานให้โดดเด่นในสายตานายจ้าง

• Tweet
• 

หากตอนนี้ใครที่กำลังมองหางานหรืออยากเพิ่มโอกาสให้โปรไฟล์ของเรานั้นโดดเด่นน่าสนใจกว่าใครในแพลตฟอร์มหรือการหางาน เช่น ไทยจ๊อบ (ThaiJob) การอัปเดตโปรไฟล์ให้ทันสมัยและดึงดูดนายจ้างเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากในยุคสมัยนี้ และการอัปเดตโปรไฟล์สมัครงานให้ทันสมัยและน่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้รับการเรียกสัมภาษณ์และได้งานที่ต้องการ วันนี้แอดมีเคล็ดลับในอัปเดตโปรไฟล์สมัครงานให้โดดเด่นในสายตานายจ้างง่ายๆ ถึง 7 วิธี ที่จะช่วยให้คุณดูเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้นค่ะ

1.อัปเดตข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดการติดต่อ

ข้อมูลพื้นฐานของเรา เช่น ชื่อ นามสกุล โดยใช้ชื่อ-นามสกุลจริง (ตรงกับเอกสารทางการ) เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานได้จริง และพร้อมรับสาย และอีเมล ควรเป็นข้อมูลปัจจุบัน เพื่อให้นายจ้างสามารถติดต่อคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ควรใช้ อีเมลที่ดูเป็นมืออาชีพ เช่น yourname@gmail.com และหลีกเลี่ยงอีเมลที่ดูไม่เป็นทางการ อีเมลที่ดูไม่เป็นทางการ เช่น cuteboy123@hotmail.com หรือ nongpuii_lovely@yahoo.com มีการเพิ่มลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn หรือ Portfolio (ถ้ามี) ใช้ไฟล์เรซูเม่เป็น PDF (ป้องกันการเลื่อนฟอร์แมต)และที่สำคัญตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนส่ง เช่น ไม่มีตัวสะกดผิด หรือเบอร์โทรที่ผิด นะคะ

2. เพิ่มรูปโปรไฟล์ที่ดูเป็นมืออาชีพ

รูปโปรไฟล์เป็นสิ่งแรกที่นายจ้างเห็น เราควรใช้ รูปถ่ายหน้าตรง แต่งกายสุภาพ และมีพื้นหลังเรียบง่าย หลีกเลี่ยงการใช้รูปเซลฟี่หรือรูปที่อาจทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ เคล็ดลับในการเลือกรูปโปรไฟล์ที่ดูเป็นมืออาชีพนั้นคือ ใช้รูปถ่ายหน้าตรงหรือครึ่งตัว (เห็นใบหน้าชัดเจน) การแต่งการก็สำคัญค่ะต้องแต่งกายสุภาพ (ขึ้นอยู่กับสายงาน เช่น สูท, เชิ้ต หรือชุดสุภาพ) พื้นหลังรูปภาพต้องเรียบง่าย เช่น สีขาว สีเทา หรือโทนสุภาพ หรือถ้าหากไม่มีภาพถ่ายแบบมืออาชีพ เราสามารถใช้ Portrait Mode จากสมาร์ทโฟน หรือใช้ AI ปรับพื้นหลังให้เรียบง่ายได้อีกด้วยค่ะ

3. ปรับปรุงประสบการณ์ทำงานให้กระชับและโดดเด่น

เราควรปรับปรุงประสบการณ์ทำงานให้กระชับและโดดเด่นโดยการ ระบุ ตำแหน่งงาน ชื่อบริษัท และระยะเวลาทำงาน อย่างชัดเจน อย่างเช่น Digital Marketing Specialist | ABC Company | ม.ค. 2022 – ปัจจุบัน มีการอธิบายหน้าที่ความรับผิดชอบและผลงานที่ทำไว้ให้สั้น กระชับ น่าสนใจ และเน้นสิ่งที่สำคัญ เช่น วางแผนและบริหารแคมเปญโฆษณาบน Facebook และ Google Ads หรือ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพัฒนา Content Strategy ควรใช้ตัวเลขและสถิติเพื่อวัดผลลัพธ์ของงาน เช่น “เพิ่มยอดขายขึ้น 30% ภายใน 6 เดือน” และที่สำคัญเราควรใช้คำที่แสดงถึงความสำเร็จและความสามารถ (Action Words) อย่างเช่น คำว่า ปรับปรุง,พัฒนา,เพิ่มยอดขายหริการบริการจัดการค่ะ

4. เพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร

เพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร โดยใส่ ทักษะทางเทคนิค (Hard Skills) เช่น การใช้โปรแกรมเฉพาะทาง ภาษาโปรแกรมมิ่ง ใส่ ทักษะด้าน Soft Skills เช่น การแก้ปัญหา (Problem-Solving) สามารถคิดวิเคราะห์และหาทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น การทำงานเป็นทีม (Teamwork) ที่สามารถทำงานร่วมกับทีมในโครงการที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสื่อสาร (Communication) สามารถถ่ายทอดข้อมูลได้ชัดเจนและตรงประเด็น การบริหารเวลา (Time Management) สามารถจัดลำดับความสำคัญและทำงานได้ทันเวลา ระบุระดับความเชี่ยวชาญสามารถใช้งานเครื่องมือหรือโปรแกรมได้อย่างมืออาชีพ เช่น Photoshop (Advanced), Excel (Intermediate) ยิ่งถ้าเรา ใบรับรอง (Certifications) ที่เกี่ยวข้อง เช่น Google Analytics, PMP, หรือ Scrum Master เราควรใส่ไปในโปรไฟล์เพื่อยืนยันทักษะของคุณ ค่ะ

5.อัปเดตวุฒิการศึกษาและใบรับรองที่เกี่ยวข้อง

การอัปเดต วุฒิการศึกษา และ ใบรับรองที่เกี่ยวข้อง จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและทำให้โปรไฟล์ของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะอยู่เสมอ โดยระบุ วุฒิการศึกษา ที่ทันสมัยที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้นายจ้างเห็นคุณสมบัติพื้นฐานของคุณ เช่น ชื่อปริญญา (เช่น ปริญญาตรี ปริญญาโท) สาขาวิชา (เช่น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์, การตลาด, การจัดการธุรกิจ) มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา ปีที่สำเร็จการศึกษา หรือ ปีที่คาดว่าจะจบ หากมี หลักฐานการเรียนหรืออบรม จากองค์กรที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม (เช่น Google, Microsoft, HubSpot) ควรเพิ่มเข้าไปในโปรไฟล์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

6.เขียนคำอธิบายตัวเอง (Summary) ให้ดึงดูด

การเขียน คำอธิบายตัวเอง (Summary) ให้ดึงดูดเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกให้กับนายจ้าง คุณควรเน้นที่ จุดแข็ง และ ความสำเร็จที่วัดผลได้ ตัวอย่าง คำอธิบายตัวเองที่ดึงดูด เช่น นักการตลาดดิจิทัล “นักการตลาดดิจิทัลที่มีประสบการณ์ 5 ปี เชี่ยวชาญในการเพิ่มยอดขายผ่านกลยุทธ์ SEO และ SEM สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้ 40% ใน 6 เดือน” หรือ นักพัฒนาโปรแกรม “นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีทักษะในภาษา Python และ JavaScript มีประสบการณ์สร้างเว็บไซต์ที่รองรับผู้ใช้มากกว่า 100,000 คน พร้อมทั้งสามารถพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพสูงและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้”

7. ตั้งค่าความพร้อมในการหางาน

การตั้งค่าความพร้อมในการหางานเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้นายจ้างสามารถติดต่อคุณได้ง่ายขึ้น และช่วยให้โปรไฟล์ของคุณโดดเด่นขึ้นในตลาดงาน โปรไฟล์ของคุณควรระบุชัดเจนว่า คุณกำลังหางาน หรือ พร้อมรับโอกาสใหม่ เพื่อให้นายจ้างรู้ว่าเมื่อใดที่คุณสามารถเริ่มงานได้ โดยการใช้สถานะเช่น “กำลังหางานใหม่” หรือ “เปิดรับโอกาสใหม่” หากคุณพร้อมเริ่มงานในทันที ควรระบุว่า “สามารถเริ่มงานได้ทันที” หมั่นตรวจสอบการตั้งค่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานะหรือเป้าหมายในการหางานค่ะ

อย่ารอช้าการอัปเดตโปรไฟล์เหล่านี้จะช่วยให้คุณโดดเด่นและพร้อมที่จะได้รับโอกาสในการทำงานที่ดีที่สุด!

You must be logged in to post a comment Login