- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 17 hours ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 1 day ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 days ago
- ความรักผลักดันให้สำเร็จในชีวิตPosted 5 days ago
- จะรักใคร พึงสังวรให้ดีPosted 6 days ago
- ทำมาฆะให้ได้ผลมากกว่าทุกปีPosted 1 week ago
- หมดสภาพความเป็นมนุษย์Posted 1 week ago
- ใช้ไม้นวมก่อนแล้วใช้ไม้แข็งPosted 1 week ago
- แก่ไม่หลอมหล่อความดีPosted 2 weeks ago
- ต้องปิดนิสัยคนเชื่อง่ายPosted 2 weeks ago
กาซา ไม่ใช่มาซาดา
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2019/07/santitum-300x300.jpg)
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 7 ก.พ. 68)
มาซาดา(Masada)เป็นชื่อป้อมปราการแห่งหนึ่งซึ่งถูกสร้างขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน ป้อมปราการแห่งนี้สร้างโดยเฮโรดกษัตริย์ชาวยิวที่ปกครองเยรูซาเล็มก่อนหน้าคริสตกาลประมาณสามสิบปี
เดิมที ชาวยิวก็คือพวกลูกหลานอิสราเอลที่ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว แต่หลังจากสมัยของโมเสส คนกลุ่มนี้ได้หันไปนับถือศาสนายูดายที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เมื่ออาณาจักรโรมันที่ผู้คนกราบไหว้บูชาเทพเจ้าต่างๆแผ่ขยายอำนาจมายังดินแดนแถบนี้ มีการกดขี่ข่มเหงเกิดขึ้นและด้วยความเชื่อที่แตกต่างกัน ความขัดแย้งและการต่อต้านจึงเกิดขึ้นและกลายเป็นการทำสงครามกันในที่สุด
ในเวลานั้น อาณาจักรโรมันเป็นมหาอำนาจของโลกและมีแสนยานุภาพทางทหารที่เกรียงไกร ส่วนชาวยิวเป็นชนกลุ่มน้อย จึงพ่ายแพ้ในที่สุด การพ่ายแพ้ต่ออาณาจักรโรมันทำให้ชาวยิวต้องหนีกระจัดกระจายกันไปหลบภัยในส่วนต่างๆ ยิวส่วนหนึ่งหนีไปหลบภัยอยู่ในป้อมมาซาดาบนภูเขาเล็กๆที่ทางขึ้นชัน มากจนไม่มีสัตว์พาหนะใดๆสามารถขึ้นไปได้
โยเซฟัส นักประวัติศาสตร์ชาวยิว-โรมันและเป็นผู้นำทางทหารได้บันทึกไว้ว่ามาซาดาเป็นป้อมปราการสุดท้ายของชาวยิวในการต่อต้านกองทัพโรมัน มีชาวยิวทั้งผู้ชายและผู้หญิงรวมทั้งเด็กประมาณ 960 คนขึ้นไปหลบอยู่ที่นั่น
ประมาณ ค.ศ.72 หลังทำลายกรุงเยรูซาเล็มและวิหารหลังที่สองแล้ว กองทัพโรมันได้เข้ามาปิดล้อมป้อมปราการมาซาดาทุกด้าน แต่ทหารโรมันไม่สามารถขึ้นไปได้ จึงต้องใช้ทหารจำนวนนับหมื่นคนนำหินมาสร้างทางลาดขึ้นไป
แต่เมื่อเข้าไปในป้อมปราการได้ ทหารโรมันได้พบว่าชาวยิวที่หลบภัยอยู่ในป้อมปราการมาซาดาทั้งหมดได้ฆ่าตัวตายเพื่อแสดงถึงการไม่ยอมจำนนต่ออาณาจักรโรมัน เหตุการณ์นี้เป็นตำนานที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ปลุกใจชาวยิวและนำมาฉายในวันชาติอิสราเอล
เมื่อรัฐอิสราเอลถูกก่อตั้งขึ้นมาในปาเลสไตน์ในปี ค.ศ.1948 โดยการสนับสนุนจากชาติมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาและยุโรป อิสราเอลและชาติมหาอำนาจผู้หนุนหลังกลับมีพฤติกรรมเหมือนอาณาจักรโรมันที่กระทำกับพวกตนในอดีต นับตั้งแต่ขึ้นมาบนแผ่นดินปาเลสไตน์ หน่วยปฏิบัติการรุนแรงได้ขับไล่ ทำลายบ้านเรือน ยึดดินแดนและเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์ผู้เป็นเจ้าของดินแดนเพื่อหวังใช้ปาเลสไตน์เป็นบันไดขั้นแรกในการยึดดินแดนตะวันออกกลางตามแผนการที่มหาอำนาจได้วางไว้
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2025/02/ty.jpg)
การรุกราน การเข่นฆ่าและยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 70 กว่าปีจนชาวปาเลสไตน์เหลือดินแดนของตัวเองอยู่ในฉนวนกาซาเป็นที่มั่นสุดท้าย
เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกลิดรอนสิทธิอย่างไม่เป็นธรรมและชาติเพื่อนบ้านนิ่งเฉย ชาวปาเลสไตน์รู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ผู้รุกรานกระทำฝ่ายเดียว อนาคตคงมืดมน ไม่สู้ก็ตายหรือไม่ก็ไร้แผ่นดิน ดังนั้น การตัดสินใจสู้เพื่อให้โลกรู้และฝ่ายรุกรานล้มตายบ้างจึงเริ่มขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ2566
แม้จะเสียเปรียบทุกด้านในการต่อต้านผู้รุกราน แต่นักรบปาเลสไตน์ไม่มีวันฆ่าตัวตายเหมือนชาวยิวในป้อมปราการมาซาดา เพราะการฆ่าตัวตายกับการตายในการต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินและความศรัทธานั้น อนาคตหลังความตายต่างกันแบบฟ้ากับเหว
You must be logged in to post a comment Login