ประกันรถ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เลือกทำที่ไหนดี ?

• Tweet
• 

ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่ประหยัดกว่าประกันชั้น 1 แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองที่สำคัญต่อการใช้รถยนต์ มาดูรายละเอียดกันว่าประกันรถ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง และวิธีเลือกบริษัทประกันที่เหมาะสม เพื่อให้คุณขับขี่รถยนต์คู่ใจอย่างอุ่นใจทุกเส้นทาง

ประกันรถ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ?

แม้ว่าประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ จะไม่ครอบคลุมทุกกรณีเหมือนประกันชั้น 1 แต่ก็ให้ความคุ้มครองที่สำคัญ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละปี ได้แก่

1. คุ้มครองกรณีรถชนกับยานพาหนะทางบก

ประกันรถ 2+ คุ้มครองกรณีที่รถชนกับยานพาหนะอื่นบนท้องถนน เช่น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือรถบรรทุก โดยเงื่อนไขสำคัญคือ ต้องสามารถระบุคู่กรณีได้ และเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกันเท่านั้น

• คุ้มครองรถหายและไฟไหม้

หากรถถูกโจรกรรมหรือไฟไหม้ ประกัน 2+ จะให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1 จึงเหมาะสำหรับผู้ที่จอดรถในพื้นที่เสี่ยง เช่น หอพัก หรือบริเวณที่มีอัตราการโจรกรรมสูง

• คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ประกันประเภทนี้คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมแซมทรัพย์สินของบุคคลภายนอกในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ซึ่งเป็นความคุ้มครองขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยวงเงินคุ้มครองจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก

ประกัน 2+ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง ?

• ความเสียหายต่อตัวรถที่เกิดจากอุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี เช่น ขับชนเสาไฟฟ้า ตกหลุม หรือเฉี่ยวรั้วบ้าน
• ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ทั้งนี้ อาจมีบางบริษัทเสนอเป็นความคุ้มครองเสริม

วิธีเลือกบริษัทสำหรับทำประกันรถยนต์ 2+

นอกจากจะเช็กให้ชัดว่าประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้างแล้ว การเลือกซื้อประกันรถ 2+ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญต่อไปนี้เป็นหลัก

1. ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน

เลือกบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้รับอนุญาตจาก คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) พร้อมดูรีวิวจากลูกค้าเกี่ยวกับบริการเคลมและการดูแลลูกค้าประกอบ

• ศูนย์ซ่อมในเครือข่าย

ตรวจสอบว่าบริษัทประกันมีศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐานและตั้งอยู่ใกล้บ้านหรือไม่ และเช็กให้ละเอียดว่าบริษัทให้บริการซ่อมห้าง (ศูนย์บริการรถยนต์แบรนด์นั้น ๆ) หรือซ่อมอู่ (อู่มาตรฐานที่ได้รับการรับรอง)

• ค่าเบี้ยประกันและเงื่อนไขความคุ้มครอง

เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท และตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองว่าครอบคลุมตามที่ต้องการหรือไม่ รวมทั้งดูว่าเบี้ยประกันรวมภาษีและค่าบริการอื่น ๆ แล้วหรือยัง

• บริการหลังการขายและการเคลม

บริษัทประกันที่ดีควรมีบริการสายด่วน 24 ชั่วโมงสำหรับแจ้งเคลม และควรสอบถามระยะเวลาการเคลมและกระบวนการเคลมเพื่อป้องกันความล่าช้า

ได้คำตอบแล้วว่าประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง และเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาย่อมเยาอย่างไร อย่าลืมพิจารณาบริษัทประกันอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่ารถของคุณจะได้รับความคุ้มครองอย่างดีที่สุด

You must be logged in to post a comment Login