“งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” ปั้นอนาคตสีเขียว ท่ามกลางวิกฤติภูมิอากาศสู่ชีวิตที่ยั่งยืน

• Tweet
• 

ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับวิกฤติของสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนและความสมดุลของธรรมชาติได้กลายเป็นวาระสำคัญของทุกประเทศ สำหรับประเทศไทยได้เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ภายใต้แนวคิด “Diversity of life, connecting people, water and plants for sustainable living : ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต สายสัมพันธ์แห่งผู้คน สายน้ำและพืชพรรณ สู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

จังหวัดอุดรธานี มีเป้าหมายที่จะสร้างภูมิทัศน์สีเขียวและรักษาสมดุลของชีวิต แหล่งน้ำ และพืชพรรณ ตามแนวคิด เศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียว (BCG Economy) โดยมีกำหนดจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ระดับชาติ “ประเทศไทย : ดินแดนแห่งความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน” นอกจากนี้ จังหวัดอุดรธานียังมุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะด้านการลงทุน แหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กลาง MICE (การประชุมวิชาการและงานแสดงสินค้า) ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนบนอีกด้วย

จุดเด่นของงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของมหกรรมครั้งนี้ คือ การเป็นงานพืชสวนโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นบนพื้นที่ชุ่มน้ำควบคู่ไปกับบนบก โดยมีพื้นที่จัดงานกว่า 1,030 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะบึงหนองแด ในเขตตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีชื่อเสียงของจังหวัด โดยภายในงานจะแบ่งออกเป็น 6 โซนหลัก ได้แก่ โซนพื้นที่ทางเข้า จุดประชาสัมพันธ์ จุดจำหน่ายบัตร, โซนสวนนานาชาติ สำหรับการประกวดสวนนานาชาติ, โซนอาคารเรือนกระจก (Greenhouse) สำหรับการประกวดพืช และอาคารอำนวยการ (Exhibition Building) สำหรับการประกวดสวนนานาชาติในอาคาร, โซนพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรที่ทันสมัย รวมไปถึงแปลงรวบรวมพันธุ์ การปลูกพืชผสมผสาน, โซนสวนการเกษตรไทย และอาคารหลักต่าง ๆ, โซนสวนป่าคาร์บอนเครดิตและเรือนเพาะชำ โซนทางเข้า

เสน่ห์ของอุดรธานี

พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแดหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ป่าบุ่ง ป่าทาม” คือสถานที่ที่ได้คัดเลือกสำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เดินทางสะดวก นอกจากนี้ จังหวัดอุดรธานียังเป็นที่ตั้งของ 2 แหล่งมรดกโลกที่สำคัญ ได้แก่

แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่มีเครื่องปั้นดินเผาโบราณลวดลายสีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ที่มีภาพเขียนสีโบราณบนผาหิน

เป้าหมายของงาน

สำหรับเป้าหมายของงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 มุ่งแสดงศักยภาพของไทยในด้านพืชสวนและพื้นที่ชุ่มน้ำ ตลอดจนการส่งเสริมพืชสมุนไพรท้องถิ่น และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพืชสวนและเทคโนโลยีระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนธุรกิจเกษตรผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับจังหวัดอุดรธานีให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมการเกษตรของภูมิภาค เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม

การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะก่อให้เกิด ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม กล่าวคือ

คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกไม่น้อยกว่า 3.6 ล้านคน

สร้างอาชีพมากถึง 81,000 ตำแหน่งงาน

กระตุ้นเศรษฐกิจไทยเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท

ประโยชน์ทางสังคม ได้แก่

การได้รับการยอมรับในระดับสากล ในฐานะเจ้าภาพจัดงานระดับโลก

การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

การขยายเครือข่ายทางวิชาการในการวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม

การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพืชสวนและสิ่งแวดล้อมกับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญระดับโลก

การขยายพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้าง “ปอดของเมือง”

งานระดับโลกที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 นี้ นอกจากจะมีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) แล้ว ในปี พ.ศ. 2569 ยังตรงกับวาระสำคัญระดับชาติถึง 3 วาระ ได้แก่

วาระครบรอบ 10 ปีแห่งการขึ้นครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

วาระครบรอบ 72 ปี (6 รอบนักษัตร) ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ครบรอบ 134 ปีแห่งการก่อตั้งจังหวัดอุดรธานี

การพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังจบงาน

หลังจากมหกรรมสิ้นสุดลง ได้กำหนดแผนให้มีการพัฒนาพื้นที่จัดงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว ได้แก่

โซนวิถีชีวิต จะพัฒนาเป็น พิพิธภัณฑ์ GMS

โซนริมน้ำ จะพัฒนาให้เป็นศูนย์วิจัยความหลากหลายทางชีวภาพและการประมง

โซนพืชพรรณ จะพัฒนาเป็นศูนย์วิจัยและอนุรักษ์พืช

สวนกลางแจ้ง จะปรับเป็นสวนสาธารณะและศูนย์กีฬาทางน้ำ

ในการนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ จังหวัดอุดรธานี และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ขอเชิญประเทศสมาชิก สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) เข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 นี้ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ YouTube: Udon Thani International Horticultural EXPO 2026 และ TikTok: utihe2026

มหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569”ปั้นอนาคตสีเขียว ท่ามกลางวิกฤติภูมิอากาศสู่ชีวิตที่ยั่งยืน

ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับวิกฤติของสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนและความสมดุลของธรรมชาติได้กลายเป็นวาระสำคัญของทุกประเทศ สำหรับประเทศไทยได้เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ภายใต้แนวคิด “Diversity of life, connecting people, water and plants for sustainable living : ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต สายสัมพันธ์แห่งผู้คน สายน้ำและพืชพรรณ สู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

จังหวัดอุดรธานี มีเป้าหมายที่จะสร้างภูมิทัศน์สีเขียวและรักษาสมดุลของชีวิต แหล่งน้ำ และพืชพรรณ ตามแนวคิด เศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียว (BCG Economy) โดยมีกำหนดจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ระดับชาติ “ประเทศไทย : ดินแดนแห่งความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน” นอกจากนี้ จังหวัดอุดรธานียังมุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะด้านการลงทุน แหล่งท่องเที่ยว และศูนย์กลาง MICE (การประชุมวิชาการและงานแสดงสินค้า) ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนบนอีกด้วย

จุดเด่นของงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของมหกรรมครั้งนี้ คือ การเป็นงานพืชสวนโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นบนพื้นที่ชุ่มน้ำควบคู่ไปกับบนบก โดยมีพื้นที่จัดงานกว่า 1,030 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะบึงหนองแด ในเขตตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีชื่อเสียงของจังหวัด โดยภายในงานจะแบ่งออกเป็น 6 โซนหลัก ได้แก่ โซนพื้นที่ทางเข้า จุดประชาสัมพันธ์ จุดจำหน่ายบัตร, โซนสวนนานาชาติ สำหรับการประกวดสวนนานาชาติ, โซนอาคารเรือนกระจก (Greenhouse) สำหรับการประกวดพืช และอาคารอำนวยการ (Exhibition Building) สำหรับการประกวดสวนนานาชาติในอาคาร, โซนพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรที่ทันสมัย รวมไปถึงแปลงรวบรวมพันธุ์ การปลูกพืชผสมผสาน, โซนสวนการเกษตรไทย และอาคารหลักต่าง ๆ, โซนสวนป่าคาร์บอนเครดิตและเรือนเพาะชำ โซนทางเข้า

เสน่ห์ของอุดรธานี

พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแดหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ป่าบุ่ง ป่าทาม” คือสถานที่ที่ได้คัดเลือกสำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เดินทางสะดวก นอกจากนี้ จังหวัดอุดรธานียังเป็นที่ตั้งของ 2 แหล่งมรดกโลกที่สำคัญ ได้แก่

แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่มีเครื่องปั้นดินเผาโบราณลวดลายสีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ที่มีภาพเขียนสีโบราณบนผาหิน

เป้าหมายของงาน

สำหรับเป้าหมายของงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 มุ่งแสดงศักยภาพของไทยในด้านพืชสวนและพื้นที่ชุ่มน้ำ ตลอดจนการส่งเสริมพืชสมุนไพรท้องถิ่น และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพืชสวนและเทคโนโลยีระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนธุรกิจเกษตรผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับจังหวัดอุดรธานีให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมการเกษตรของภูมิภาค เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม

การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะก่อให้เกิด ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม กล่าวคือ

คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกไม่น้อยกว่า 3.6 ล้านคน

สร้างอาชีพมากถึง 81,000 ตำแหน่งงาน

กระตุ้นเศรษฐกิจไทยเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท

ประโยชน์ทางสังคม ได้แก่

การได้รับการยอมรับในระดับสากล ในฐานะเจ้าภาพจัดงานระดับโลก

การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

การขยายเครือข่ายทางวิชาการในการวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม

การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพืชสวนและสิ่งแวดล้อมกับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญระดับโลก

การขยายพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้าง “ปอดของเมือง”

งานระดับโลกที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 นี้ นอกจากจะมีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) แล้ว ในปี พ.ศ. 2569 ยังตรงกับวาระสำคัญระดับชาติถึง 3 วาระ ได้แก่

วาระครบรอบ 10 ปีแห่งการขึ้นครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

วาระครบรอบ 72 ปี (6 รอบนักษัตร) ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ครบรอบ 134 ปีแห่งการก่อตั้งจังหวัดอุดรธานี

การพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังจบงาน

หลังจากมหกรรมสิ้นสุดลง ได้กำหนดแผนให้มีการพัฒนาพื้นที่จัดงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว ได้แก่

โซนวิถีชีวิต จะพัฒนาเป็น พิพิธภัณฑ์ GMS

โซนริมน้ำ จะพัฒนาให้เป็นศูนย์วิจัยความหลากหลายทางชีวภาพและการประมง

โซนพืชพรรณ จะพัฒนาเป็นศูนย์วิจัยและอนุรักษ์พืช

สวนกลางแจ้ง จะปรับเป็นสวนสาธารณะและศูนย์กีฬาทางน้ำ

ในการนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ จังหวัดอุดรธานี และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ขอเชิญประเทศสมาชิก สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) เข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 นี้ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ YouTube: Udon Thani International Horticultural EXPO 2026 และ TikTok: utihe2026

You must be logged in to post a comment Login