- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
หุบเขาบักก๊ะฮฺ จุดกำเนิดศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 18 เม.ย. 68)
มักก๊ะฮฺเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาบักก๊ะฮฺในทะเลทรายที่ปราศจากต้นไม้และแหล่งน้ำ แต่เมื่ออับราฮัมพานางฮาการ์ภรรยาคนที่สองกับลูกน้อยอิชมาเอลลูกชายคนแรกอพยพจากอียิปต์มาตั้งรกรากในหุบเขาแห่งนี้ พระเจ้าได้ประทานบ่อน้ำซัมซัมให้เป็นรางวัลตอบแทนที่นางเชื่อฟังสามีและไว้วางใจในพระเจ้าว่าจะเป็นผู้ดูแลนางและลูกน้อยหลังจากที่อับราฮัมได้เดินทางกลับไปหานางซาราห์ภรรยาคนแรก
ที่ใดมีน้ำ ที่นั่นมีชีวิต บ่อน้ำซัมซัมที่ผุดขึ้นมากลางหุบเขาบักก๊ะฮฺได้กลายเป็นจุดเติมน้ำของกองคาราวานที่เดินทางไปค้าขายระหว่างเยเมนกับซีเรีย หลังจากนั้น ผู้คนก็เริ่มมาตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชนและเติบโตเป็นเมืองมักก๊ะฮฺจนถึงปัจจุบัน แต่ที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ น้ำซัมซัมที่ผุดขึ้นมาเป็นของขวัญแก่นางฮาการ์และลูกน้อยของนางเมื่อประมาณสี่พันปีที่แล้วยังคงมีให้ผู้ไปทำพิธีฮัจญ์ปีละ 2-3 ล้านคนได้ดื่มดับกระหายอย่างเพียงพอและนำกลับมาฝากเป็นของขวัญแก่คนทางบ้านอีกด้วย
อับราฮัมกลับมาเยี่ยมครอบครัวของเขาอีกครั้งหนึ่งเมื่ออิชมาเอลโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่การมาครั้งนี้ พระเจ้าได้บัญชาเขาให้สร้างสถานที่สำหรับการแสดงความเคารพสักการะพระองค์ อับราฮัมและอิชมาเอลจึงช่วยกันนำหินมาก่อเป็นอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งปัจจุบันคือก๊ะอฺบ๊ะฮฺที่เป็นชุมทิศของมุสลิมทั่วโลกในเวลาละหมาดและเวียนรอบเมื่อไปทำฮัจญ์
เมื่อสร้างเสร็จก๊ะอฺบ๊ะฮฺเสร็จแล้ว อับราฮัมยังไม่รู้ถึงวิธีการเคารพสักการะพระเจ้าที่เขาศรัทธา เขาจึงวิงวอนต่อพระเจ้าให้บอกถึงวิธีการเคารพสักการะพระองค์ พระเจ้าจึงได้สอนวิธีการละหมาดและการทำฮัจญ์ให้แก่เขา นับแต่นั้นมา การละหมาดและการทำพิธีฮัจญ์จึงเป็นศาสนกิจที่ถูกกำหนดให้ผู้ศรัทธาในพระเจ้าปฏิบัติเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์
หลังสมัยของอับราฮัมและอิชมาเอล ลูกหลานของอับราฮัมจากภรรยาทั้งสองได้ละทิ้งการละหมาดตามแบบอย่างที่อับราฮัมได้แสดงไว้และหันมากราบไหว้บูชารูปปั้นเจว็ดนับร้อยรอบก๊ะอฺบ๊ะฮฺแทนที่จะเคารพสักการะพระเจ้าที่สั่งอับราฮัมให้สร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ใช้แสดงความเคารพสักการะพระเจ้าองค์เดียว
อย่างไรก็ตาม เราได้อ่านพบในคัมภีร์ไบเบิลว่าอับราฮัมและลูกหลานของเขาที่เป็นศาสนทูต เช่น โยชัว โมเสส อาโรนหรือแม้แต่เยซัสได้แสดงการเคารพสักการะพระเจ้าด้วยการก้มกราบ และมีผู้ศรัทธาในสมัยของกษัตริย์เดวิดได้เดินทางมาแสวงบุญที่หุบเขาบักก๊ะฮฺ
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติศาสนกิจที่เป็นการแสดงความเคารพสักการะเจ้าทั้งการละหมาดและการทำฮัจญ์ได้ผิดเพี้ยนเปลี่ยนไป พระเจ้าจึงตอบรับคำวิงวอนตอนหนึ่งของอับราฮัมในตอนที่เขาสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺเสร็จเหมือนกับรู้ว่าลูกหลานของเขาจะอยู่ในสภาพใด อับรอฮัมวิงวอนต่อพระเจ้าว่า
“โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา โปรดให้ในหมู่พวกเขามีศาสนทูตขึ้นมาคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่จะมาสาธยายวจนะของพระองค์แก่พวกเขาและสอนคัมภีร์และวิทยปัญญาแก่พวกเขาและขัดเกลาชีวิตของพวกเขาให้สะอาด แน่แท้ พระองค์คือผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (กุรอาน 2.129)
เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่คำสอนอิสลามในเมืองมักก๊ะฮฺ ชาวอาหรับที่สืบเชื้อสายมาจากอิชมาเอลกำลังเสพติดการกราบไหว้บูชารูปเจว็ดมากมายโดยหลงลืมการละหมาดและการทำพิธีฮัจญ์ที่อับราฮัมบรรพบุรุษของพวกเขาได้แสดงแบบอย่างไว้ ท่านจึงถูกส่งมาเพื่อทำให้การละหมาดและการทำพิธีฮัจญ์เป็นไปตามแบบที่พระเจ้าทรงประสงค์
นบีมุฮัมมัดกล่าวกับบรรดาสาวกของท่านว่า “ฉันคือคำวิงวอนของอับราฮัม และอีซา(เยซัส)คือศาสนทูตคนสุดท้ายที่บอกถึงการมาของฉัน”
You must be logged in to post a comment Login