นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คเรื่อง รัฐธรรมนูญคือรากฐานของความไม่ลงตัวทางการเมือง ระบุว่า อคติและความไม่เป็นอิสระของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่มิได้ทำตัวเป็นนักวิชาการที่เป็นกลาง ลืมจรรยาของนักกฎหมายมืออาชีพ ปฏิบัติตนเพียงแค่คนรับจ้างเขียนตามความต้องการของผู้มีอำนาจ นำไปสู่การสร้างกติกาที่ไม่เป็นธรรม สร้างกลไกที่สับสน และเป็นประชาธิปไตยแบบไม่สะเด็ดน้ำ พรรคเสียงข้างมากกลับตั้งรัฐบาลไม่ได้ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ พรรคเล็กเสียงดังอำนาจต่อรองสูง คำข่มขู่จากพรรคร่วมดังทุกครั้งที่ผลประโยชน์ไม่ลงตัว ตั้ง ครม. ไม่ดูจากความรู้ความสามารถ รัฐบาลเลือกตั้งรอวันล้มยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ประชาชนหมดหวังกับการเมือง นี่หากคุยว่ารัฐธรรมนูญใหม่นำไปสู่การปฏิรูปการเมือง คงต้องไปนิยามความหมายของคำว่า “ปฏิรูปการเมืองใหม่” อังคารที่ 18 มิถุนายน 2562 เวลา 18.00 น. ผมจะนำเสนอปัญหาใหญ่ๆ 18 เรื่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน facebook live...

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การตั้ง ครม. ชุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรี จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มต่างๆออกมาเรียกร้องต่อรองตำแหน่งกันมาก โดยเฉพาะภายในพรรคพลังประชารัฐเองที่มีทั้งกลุ่มด้ามขวานและกลุ่มอีสานขู่ว่าจะพิจารณาบทบาททางการเมืองที่มีกับพลังประชารัฐ นอกจากนี้บางคนที่ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ยังให้คนอื่นมาเป็นแทน จึงอยากเรียกร้องนายกรัฐมนตรีพิจารณาคัดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรี อย่าเอาคนที่มีประวัติด่างพร้อยหรือมีเรื่องร้องเรียนค้างคาอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาเป็นรัฐมนตรี เพราะรู้สึกเป็นห่วงว่าการจัดสรรรัฐมนตรีไม่ลงตัวจะทำให้รัฐบาลชุดนี้อายุสั้น นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากปัญหาในพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีปัญหาของพรรคเล็กที่เข้าร่วมรัฐบาล เช่น พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ของนายดำรงค์ พิเดช และพรรคชาติพัฒนา ของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐเคยรับปากว่าจะให้ตำแหน่งเพื่อจะได้ทำงานร่วมกัน แต่พอถึงเวลากลับเบี้ยวไม่ทำตามที่รับปากเอาไว้ ดังนั้น จึงอยากให้พรรคเหล่านี้ไม่ต้องสนใจข้อตกลงเดิมแล้ว ขอเรียกร้องให้พรรคเหล่านี้ออกมาเป็นฝ่ายค้านจะดีกว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมต้อนรับสมาชิกฝ่ายค้านเพิ่มขึ้นเพื่อร่วมกันตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เมื่อเขาไม่เห็นความสำคัญแล้วก็อย่ารอช้าเลย...

นายวินัย ไชยบุตร เลขาธิการพรรคพลังไทยรักไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทวงถามความคืบหน้ากรณีก่อนหน้านี้ได้ยื่นขอให้ กกต. ถอดถอนนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย เนื่องจากกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง นายวินัยกล่าวว่า ทางพรรคพบหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่านายคฑาเทพกระทำผิดจริง เนื่องจากพบว่านายคฑาเทพได้เขียนจดหมายด้วยลายมือตนเองลงวันที่ 29 มกราคม ถึงผู้ใหญ่คนหนึ่งที่มีชื่อเสียง มีเนื้อหาเสนอว่าจะสนับสนุนเงินให้ 1 ล้านบาทในนามพรรคพลังไทยรักไทยหากพรรคได้ร่วมรัฐบาล และหากมีตำแหน่งรัฐมนตรีพรรคยินดีมอบตำแหน่งดังกล่าวให้ ซึ่งประเด็นนี้กรรมการบริหารพรรคไม่เคยรู้เห็นด้วยมาก่อน เพราะไม่เคยมีการหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคว่านายคฑาเทพไปสัญญาอะไรกับใครไว้ นายวินัยกล่าวว่า เมื่อกรรมการบริหารพรรคพบจดหมายฉบับดังกล่าวเห็นว่าเป็นการทำผิดจริยธรรมและอาจผิดกฎหมายด้วย จึงมายื่นขอให้ กกต. ดำเนินการ แต่ผ่านมานานแล้ว กกต. ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงได้มาทวงถามและยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อให้เร่งดำเนินการถอดถอนนายคฑาเทพออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย นอกจากนี้ผู้สมัคร...

นายพรพิพัฒ พรหมชนะ อดีตนายทะเบียนและกรรมการบริหารพรรคพลังชาติไทย รวมทั้งตัวแทนสมาชิกพรรค ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบ พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค และให้มีคำสั่งด่วนที่สุดระงับการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมเวสต์เกต เรสซิเด้นท์ เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคได้มีมติไล่ตนและสมาชิกรวมจำนวน 69 คน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 63 (4) ที่เห็นว่าเราก่อการเป็นเหตุให้พรรคเสียหายทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด และจะเห็นว่าเป็นการไล่ออกทั้งที่ไม่ผิด ทั้งนี้ ที่ต้องการให้ กกต. ระงับการประชุมดังกล่าวและจะต้องไม่ให้พวกตนพ้นจากสมาชิกภาพเนื่องจากไม่ได้ทำผิดใดๆ การที่พรรคให้พวกตนออกจะมีผลต่อการที่พวกตนไม่สามารถโหวตเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ นายพรพิพัฒกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ที่พรรคไม่ได้รับการเลือกตั้งตามเป้าที่ประกาศไว้ ตนในฐานะกรรมการบริหารพรรคก็แสดงสปิริตลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อแสดงความรับผิดชอบ...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพเชิญ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย ประชุมหารือแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งในและนอกสภา โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า อยากให้การทำงานของฝ่ายค้านในสภามีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสอบ และไม่จำกัดบทบาทฝ่ายค้านในเวทีสภาเท่านั้น แต่อยากให้สังคมมีโอกาสร่วมกันกับเราในการตรวจสอบ ดังนั้น จึงต้องประสานการทำงานกันของทั้ง 7 พรรค โดยจะต้องสื่อสารกับประชาชน นักวิชาการ องค์กรภาคประชาชน โดยหัวใจสำคัญของ 7 พรรคการเมืองคือ การแก้ไขกติกาที่บั่นทอนสถาบันทางการเมือง จะต้องเคลื่อนไหวให้สังคมได้รับรู้ถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า...

นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าภายหลังที่จากเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ได้แถลงข่าวถึงความไม่พอใจที่ พปชร. ไม่ได้จัดสรรสัดส่วนตำแหน่งบริหารใดๆให้ทางกลุ่ม ว่า ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากแกนนำพรรค พปชร. เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ทางกลุ่มจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงแนวทางและกำหนดท่าทีหากไม่ได้รับการตอบรับจากแกนนำพรรค พปชร. ซึ่งจะเป็นการประชุมภายในไม่แจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบสถานที่โดยจะมีการกำหนดท่าทีของกลุ่มและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในโอกาสต่อไป  นายเอกราช กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่ในพรรคพปชร.มองข้ามกลุ่ม ส.ส.อีสานตอนบน โดยไม่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานในภาคอีสานตอนบนขณะที่ทางกลุ่มมองว่าหากไม่ได้ตำแหน่งด้านบริหาร เช่น รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ รวมถึงตำแหน่งบริหารอื่นๆคงไม่สามารถขับเคลื่อนงานตามที่ได้หาเสียงกับประชาชนได้เพราะ ส.ส. มีหน้าที่เพียงเสนอกฎหมายตรวจสอบแต่ไม่ได้มีหน้าที่ด้านการบริหาร  “ภาคอีสานมี 20 จังหวัดกลุ่มโคราชดูอยู่ 5 จังหวัดยังได้ตำแหน่งรัฐมนตรีแต่เราดู 15...

ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พล.ต.ท.วิโรจน์  เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่จำเป็นต้องรีบลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะขั้นตอนของการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิ.ย.นี้ โดยพรรคเพื่อไทยได้ร่างระเบียบพรรค กำหนดให้มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 29 คน และเตรียมจะให้แกนนำของพรรคซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ประธานพรรค ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ประธานที่ปรึกษาพรรค ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และผลักดันคนรุ่นใหม่ให้มาเป็นกรรมการบริหารพรรคมากขึ้น นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับการทำงานร่วมของ 7 พรรคฝ่ายค้านจะนัดประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานในแต่ละช่วง ซึ่งเรื่องแรกที่จะดำเนินการคือการตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ส. ที่ถือครองหุ้นสื่อ แต่ในส่วนของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน...

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในนามพรรคประชาธิตย์ แถลงถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไปยื่นเรื่องคัดค้านการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ โดยอ้างว่ามีกรณีทุจริตขณะปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.สงขลาอยู่ที่ ป.ป.ช. ว่า การร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงถนน 2 คัน รวม 50 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่การร้องเรียนว่าตนทุจริต แต่เป็นกรณีที่ตนไม่จ่ายเงิน เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวมีปัญหา และเป็นการดำเนินการก่อนที่ตนรับตำแหน่ง นายนิพนธ์กล่าวว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่งก็มีการร้องเรียนว่ามีปัญหาเรื่องการสมยอมราคา มีลักษณะคล้ายกับกรณีรถเรือดับเพลิง กทม. ทำให้ตนไม่จ่ายเช็คออกไป แต่ตั้งกรรมการตรวจสอบก่อน ซึ่งมีหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดลงวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ระบุให้จ่ายเงินแต่ให้ตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนด้วย หากใครทำผิดให้ดำเนินการทั้งคดีแพ่งและอาญา การกระทำของตนจึงเป็นการรักษาผลประโยชน์ของจังหวัด ไม่มีเรื่องทุจริตแต่อย่างใด ดังนั้น...

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ 7 คน ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตนได้ให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค มอบรายชื่อดังกล่าวไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำหรับรายชื่อทั้ง 7 คนยังไม่สามารถเปิดเผยจนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เมื่อถามว่าเริ่มมีผู้ออกมาทักท้วงชื่อของนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ที่จะเป็น รมช.สาธารณสุขจากกรณีคุณสมบัติการถือครองหุ้นสื่อ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ที่จะเป็น รมช.มหาดไทย ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติที่มีกฎหมายกำกับอยู่ และเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งพรรคได้พิจารณาเบื้องต้นแล้ว และเป็นมติพรรคแล้ว ต่อข้อถามว่าการที่บุคคลที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จะต้องลาออกจากตำแหน่ง...

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝั่ง ก.พ. ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนพร้อมส่งข้อมูลหลักฐานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบการพิจารณาตัดสินใจเพื่อไม่ให้เสนอชื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มาดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า จากการที่ตนตรวจสอบประวัติการทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลา แล้วพบว่ามีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่องหลายโครงการ หากถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีอาจมีผลต่อพยานหลักฐานในการไต่สวนสอบสวนของ ป.ป.ช. ได้ นอกจากนี้ในอีก 1-2 วัน จะนำเรื่องของ 3 ว่าที่รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลในภาคอีสานที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้วมาให้ข้อมูลต่อนายกฯเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากนายกฯไม่ทบทวนและยังแต่งตั้งคนเหล่านี้มาเป็นรัฐมนตรี ตนก็จะทำให้สังคมเห็นว่านายกฯเป็นบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ทั้งที่มีนโยบายปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต้องมีความโปร่งใส ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล...

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประมงที่ จ.ตราด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2562 โดยเสนอให้แก้ไข พ.ร.ก.ประมงในบางมาตราว่า สังคมไทยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายบางมาตรานั้นจะเป็นผลดีหรือส่งเสริมการทำลายล้างทรัพยากรทางทะเล ฝ่าฝืนมาตรฐานแรงงาน และเปิดช่องให้มีการค้ามนุษย์เหมือนในอดีต “การลงพื้นที่หรือหาประโยชน์ทางการเมืองนอกสภานั้นอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทรัพยากรและเศรษฐกิจการประมงของชาติโดยไม่รู้ตัว หากศึกษาข้อกฎหมายอย่างแท้จริงจะพบว่าถ้ายกเลิกมาตรา 81 จะทำให้การประมงกลับไปไร้การควบคุมเหมือนที่ผ่านมา ถ้าไม่มีอุปกรณ์ติดตามเรือ (VMS) ก็จะไม่รู้ว่าเรือประมงลำใดออกนอกน่านน้ หรือไปทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นกติกาสากล” พล.ท.วีรชนกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การเขียนสมุดบันทึกการจับปลา (Lockbook) มีไว้เพื่อใช้พิสูจน์แหล่งที่มาของสินค้าประมง และยังนำข้อมูลไปจัดสรรวันทำประมงได้ ส่วนการที่เรือประมงต้องแจ้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (PIPO) นั้น จะช่วยตรวจสอบให้แรงงานเข้าออกอย่างถูกต้อง...