นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พูดในรายการคนในข่าวทางคลื่นวิทยุ อสมท 100.5กับบุษยา อุ้ยเจริญ ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ ได้กดดันขอแลกเปลี่ยนกระทรวง โดยจะนำกระทรวงพาณิชย์ ไปดูเอง และนำกระทรวงศึกษาธิการมาให้พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย 1 ตำแหน่ง ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือและยังไม่มีใครติดต่อมายังตนในฐานะผู้ประสาน ทั้งนี้การพูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลถือว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะตนเป็นคนประสานพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐเอง “เราไม่ได้ไปต่อรองตำแหน่งกระทรวง เพียงแต่พูดคุยเรื่องการทำงาน โดยเฉพาะในส่วนของพรรคที่จะต้องผลักดันนโยบาย ในการแก้จน สร้างคน สร้างชาติและการแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางมาตราที่เป็นปัญหา ตามที่ได้หาเสียงไว้ สิ่งสำคัญคือการดูแลปากท้องของประชาชน ราคาพืชผลทางการเกษตรที่เราขอจะเข้าไปดูแล และพรรคพลังประชารัฐก็รับเงื่อนไขได้ ดังนั้นจนถึงเวลานี้ยังไม่มีการแลกกระทรวง” นายเฉลิมชัย กล่าว นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า จากนี้ควรจะเดินหน้าทำงานให้ประชาชน มากกว่าการมาพูดคุยเรื่องตำแหน่งแล้ว และหากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ขอย้ำว่าปัญหาทั้งหมดไม่ได้เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์...

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผศ.พาวิน มโนชัย รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ดร.สุรพล ใจวงศ์ษา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาและกัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ห่วงว่าจะมีสารสกัดกัญชาที่ได้มาตรฐานไม่พอใช้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่กันคือน้ำมันกัญชาใต้ดินที่ไม่มั่นใจว่าได้มาตรฐานหรือไม่เป็นเหตุให้พบผู้ป่วยเข้ารพ.จำนวนหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องทำให้มีคนปลูกกัญชาที่ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้น มีการสกัดที่ได้มาตรฐาน จึงนำมาสู่การลงนามความร่วมมือแบบครบวงจรระหว่างม.แม่โจ้ และ มทร.ล้านนา มี อภ.เป็นผู้ผลิต โดยกรมฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบกระบวนการขออนุญาตทั้งการปลูก ผลิต และใช้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และคณะกรรมการยาเสพติด...

ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวตอนหนึ่งในงาน ฉลองครบรอบ 1 ปี การก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้หัวข้อ “1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน walk with me talk with me” ว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่พร้อมทำงานตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นว่าที่นายกฯ โดยเมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม ส.ส.ของพรรคจะยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันต่อการทำงานระยะเร่งด่วนนั้น ภายในสัปดาห์หน้า ส.ส.ของพรรคเตรียมยื่นญัตติเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตราเบื้องต้น จำนวน 2...

ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวก่อนเริ่มงาน ฉลองครบรอบ 1 ปี การก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้หัวข้อ “1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน walk with me talk with me” ต่อทิศทางการทำงานหน้าที่เป็นฝ่ายค้านของพรรคอนาคตใหม่ ว่า ตอนนี้ฝ่ายค้านทั้งหมด ต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างวิปฝ่ายค้านให้เข้มแข็ง สำหรับพรรคอนาคตใหม่เตรียมไว้หลายประเด็นที่เราจะทำเป็นญัตติ รวมถึงประเด็นที่อยากผลักดันให้ออกมาเป็นกฎหมาย ซึ่งส.ส.ของพรรคและทีมนโยบายกำลังทำงานอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมการ จากนี้จะทำทีละก้าว การต่อสู้ยังอีกยาวและขอเชิญประชาชนมาต่อสู้ร่วมกัน ผ่านกลไกรัฐสภา ซึ่งเป็นกลไกที่สันติสุขที่สุด และหลีกเลี่ยงความรุนแรงให้มากที่สุด ถ้าพวกเขาปฏิเสธทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ในรัฐสภา ก็เท่ากับการปฏิเสธการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย...

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า แม้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ประกาศผลครบถ้วน 500 คนแล้ว แต่ผู้สมัครและหัวหน้าพรรคการเมือง ยังมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อ กกต.ตามแบบที่ กกต.กำหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ได้จ่ายไปแล้ว และที่ยังค้างชำระ รวมทั้งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง และผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคแล้วแต่กรณีต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องครบถ้วนของบัญชีรายรับและรายจ่ายนั้น ภายในกำหนด 90 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ซึ่งจะครบกำหนดวันสุดท้ายในวันที่ 24 มิถุนายน 2562 แต่ปรากฏว่าขณะนี้ยังมีผู้สมัครและหัวหน้าพรรคการเมือง หลายรายที่ยังไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย จึงขอให้เร่งดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลา มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย หากเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งอาจจะต้องถูก กกต.ยื่นคำร้องศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แทน สำหรับตำแหน่งที่ว่างด้วย ทั้งนี้ตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 โดยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น...

ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pavin Chachavalpongpun ระบุว่า “ติ่งกะโหลกกะลา 5 บาท 10 บาท พรรคอาจจะควบคุมไม่ได้ แต่สมาชิกพรรคระดับสูง ส.ส. ที่ได้รับการเลือกตั้ง ทำงานใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรค กลับเป็นคนออกมาสร้างลัทธิบูชาบุคคล เอาภาพกินอาหารเหลือมาปล่อย เอาภาพนั่งกินข้าวคนเดียวมาปล่อย แถมเขียนซะแม่งเหมือนเป็นเทพบุตรลงมาจุติว่า แม้เป็นหัวหน้าพรรคก็ยังเป็นมนุษย์เดินดิน คนพวกนี้ ใกล้ชิดอย่างนี้ ไม่ต้องมาอ้างว่าควบคุมไม่ได้ ที่ไม่ควบคุมเพราะอีหัวหน้าพรรคนี่แหละที่ชอบให้คนอื่นบูชา”

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรค ร่วมงานอุปสมบทบุตรชายของนายนายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ ส.ส. จังหวัดนคราชสีมา ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง แม้จะไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ก็พร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ทั้งนี้พรรคเตรียมประชุมใหญ่วิสามัญปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค เพื่อเลือกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องเป็นหัวหน้าพรรคตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคที่ออกมานายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และ น.อ.อนุดิษฐ นาครทรรพ นั้น เป็นเพียงกระแสข่าว แต่ยังไม่มีการหารือกันในสมาชิกพรรคถึงผู้ที่มีความเหมาะสม คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงข่าวการล้มดีลเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐว่า 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ค่อยได้แก้ปัญหาให้กับประชาชนเท่าไหร่ ดังนั้นอยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน มากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ของพรรคการเมือง ซึ่งตนติดตามข่าวตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา...

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กระบุว่า อย่าเพิ่งสิ้นหวังเพราะอะไรหรือเพราะใคร หากเรายังมีความหวัง พรุ่งนี้อาจเป็นวันของเรา ความหวังเป็นเหมือนลมหายใจ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร ทำมันกับมือ ให้กำลังใจทุกคน #SAVETHAILAND

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กแสดงความเห็นถึงการเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า หลังจากการทำ #รัฐประหาร ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 5 ปี ต่อมา ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าหัวหน้าคณะปฏิวัติอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามระบอบประชาธิปไตย ผู้นำเผด็จการที่เคยถูกปรามาสว่าปล้นประชาธิปไตยจากประชาชนกลายมาเป็นผู้นำในระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์แบบ ส.ว.ที่เปล่งเสียงเห็นชอบให้กับท่านผู้นำทั้งหมดมาจากรัฐธรรมนูญที่คนไทยส่วนใหญ่ลงประชามติยอมรับ!!! เสียงเห็นชอบจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐและพรรคการเมืองอีกจำนวนหนึ่งที่ประกาศสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ตั้งแต่วันแรกไม่ต้องพูดถึง เพราะถือว่าได้ทำตามเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชนตั้งแต่ต้น ถึงวันนี้ทุกอย่างแจ่มชัดว่า ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาเป็นผู้ต่อท่ออำนาจให้กับพลเอกประยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงไม่มี ส.ว.ก็ได้เสียงเกินครึ่ง!!! กระบวนการทั้งหมด ไม่ใช่การกระทำที่แอบแฝงซ่อนเร้น แต่เป็นไปอย่างเปิดเผยแจ่มชัด จากนี้...

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร. )กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กำลังเจรจาหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่คงจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ จากนั้นคงเป็นอำนาจตามกฏหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องพิจารณาครม.ทั้งหมดเพื่อความเหมาะสมในการบริหารงานราชการแผ่นดินต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าภายในพรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีปัญหาอะไรอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้างซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย นายธนกร กล่าวต่อว่า มั่นใจว่าครม.ใหม่จะตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้และจะสามารถสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชนได้เศรษฐกิจฐานรากจะค่อยๆดีขึ้นเนื่องจากภาวะผู้นำของ พล.อ.ประยุทธ์ที่มีความเด็ดขาดกล้าคิดกล้าทำบวกกับ ครม. ที่มาจากภาคการเมืองซึ่งอยู่ใกล้ชิดพี่น้องประขาชนจะทำให้การบริหารประเทศเดินไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวังอย่าลืมว่านักการเมืองเข้าใจปัญหาของชาวบ้านดีว่าชาวบ้านต้องการอะไรเมื่อบวกกับผู้นำที่มีความตั้งใจทำงานให้ประเทศจะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 และ 13 มิ.ย.ว่า ส.ส.ได้เตรียมปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนไว้เป็นจำนวนมาก แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กลับแจ้ง ส.ส. ทั้งหมดว่าของดประชุมทั้ง 2 วันดังกล่าวโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ซึ่งไม่ใช่สภาฯ โจ๊ก จะได้เลื่อนหรืองดตามใจชอบ ต้องบอกเหตุผลให้กับ ส.ส. ทราบ ไม่ใช่นึกอยากจะงดก็งด หรือเพียงแค่ส่งเอสเอ็มเอสแจ้งเท่านั้น ต้องมีเหตุผลประกอบด้วยว่าเพราะอะไร  นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ประชาชนจับตาดูความเป็นกลางของประธานสภาฯ อยู่ ไม่อยากคิดไปเองว่ากำลังยืดเวลาเพื่อต่อรองผลประโยชน์ตามข่าวลือตลอด 2-3 วันมานี้เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีของแต่ละพรรคหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ ประธานสภาฯ เป็นสมาชิกอยู่...