นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของประเทศไทยในการชี้ทิศทางของประเทศว่าจะเดินไปในทิศทางใด จะอยู่กับระบอบ คสช. หรือจะเลือกนำประเทศไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยอีกครั้ง ทั้งนี้ ส.ส. จากพรรคอนาคตใหม่จะเสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนขอใช้โอกาสนี้กราบเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ” “ผมพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ในโอกาสนี้ผมขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย พรรคที่ได้รับเสียงจากประชาชนทำให้มีจำนวน ส.ส. มากที่สุด แสดงสปิริตที่น่ายกย่อง ไม่ผูกมัดกับผลประโยชน์ ซึ่งนี่เป็นการแสดงออกทางการเมืองที่น่านับถือ ผมขอขอบคุณ ส.ส.เพื่อไทยทุกท่านที่ให้โอกาสเรา รวมทั้งพรรคการเมือง และ ส.ส. ที่ร่วมลงนามสัตยาบันต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ทั้ง 7 พรรค ผมซาบซึ้งใจและจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด” นายธนาธรกล่าวต่อว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ถึงตนจะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี...

ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์และ ส.ส. โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม โดยบรรยากาศในการประชุมเปิดโอกาสให้ ส.ส. แสดงความคิดเห็นและเหตุผลที่ว่าควรจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และควรเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยที่จะโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เพราะขาดคุณสมบัติความเป็นนายกฯ และพรรคประชาธิปัตย์ควรจะยึดอุดมการณ์มากกว่าที่จะเลือกเผด็จการสืบทอดอำนาจ แต่หากทางพรรคจะมีมติอย่างไรก็ไม่ขัดข้อง และขอให้ไม่ต้องมากังวลที่ตน เช่นเดียวกับนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่อภิปรายไม่เห็นด้วยที่จะร่วมรัฐบาลโดยมี พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ แต่หากทางพรรคมีมติอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม ขณะที่ ส.ส. ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะเข้าร่วมรัฐบาล เพราะเสียงประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ร่วมด้วย นอกจากนี้ยังอภิปรายถึงกรณีที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสามมิตรออกมาเคลื่อนไหวหลายครั้ง โดยแสดงความไม่พอใจกับข้อตกลงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี การแสดงความคิดเห็นของที่ประชุมระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลเป็นไปอย่างหลากหลาย ทั้งนี้ หลังจากใช้เวลาประชุมกันนาน 5...

ที่ บก.ปอท. นายราเชน ตระกูลเวียง ประธานสหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบัน พร้อมมวลชนใส่เสื้อดำกว่า 10 คน รวมตัวในนาม “พวกเรารักป๋าเปรม ปกป้องศักดิ์ศรีของป๋าเปรม..รัฐบุรุษ5 แผ่นดิน” ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ให้ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. ดำเนินคดีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักกิจกรรมการเมืองและประธานสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาเเห่งประเทศไทย และนายสุไพรพล ช่วยชู ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เขตบางขุนเทียน หมายเลข 11 กรณีพบข้อความล่วงเกิน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเนื่องจากระบบหัวใจล้มเหลว นายราเชนกล่าวว่า พล.อ.เปรมถือเป็นบุคคลสำคัญยิ่งของประเทศ และเป็นตัวแทนองค์พระมหากษัตริย์ อยู่เหนือการเมือง เราควรเคารพให้เกียรติท่าน ไม่ควรก้าวล่วง แม้ท่านถึงแก่อสัญกรรมไปแล้วก็ควรอโหสิกรรม ส่วนคนที่ก้าวล่วงทางกลุ่มจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขอวิงวอนถึงชาวไทยทุกคน เราควรช่วยกันปกป้องศักดิ์ศรีของป๋าเปรมเพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก การที่กลุ่มคนฝั่งต่อต้านได้กระทำการลักษณะนี้ถือเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีป๋าเปรม เป็นจุดเริ่มต้นโจมตีเพื่อทำลายสถาบันทหาร สถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นตัวแทนองค์พระมหากษัตริย์ กลุ่มดังกล่าวมีแนวคิดต้องการให้ประเทศไทยเป็นระบอบประธานาธิบดี เป็นสิ่งที่กลุ่มรับไม่ได้และไม่ยอมให้เกิดขึ้น จึงมาร้องเรียนให้หน่วยงานทางราชการเล็งเห็นถึงความถูกต้อง และดำเนินการเพื่อเอาผิดกับบุคคลเหล่านี้ตามกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ผบก.ปอท. ได้รับหนังสือดังกล่าวพร้อมเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักงานศาลปกครองแจ้งกำหนดการนัดพิจารณาคดีที่น่าสนใจระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน ระบุว่าในวันที่ 5 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำ 567/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 357/2562 ระหว่างนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฟ้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย กรณีผู้ฟ้องคดีมีหนังสือขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ว่ามีการเปิดเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ส่วนตัว เพื่อสื่อสารกับสาธารณชน อันถือเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใดๆที่เข้าข่ายเป็นการขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ และทำให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับกรณีตามหนังสือร้องเรียนของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณาโดยไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามหนังสือ...

แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เรียกประชุม ส.ส. ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและขอมติจากที่ประชุมว่าจะส่งบุคคลของพรรคเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายนนี้หรือไม่ โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง นายภูมิธรรมแถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมพูดคุย 2 เรื่องใหญ่ๆคือ การทำหน้าที่ในสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) และการตัดสินใจส่งบุคคลชิงนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. เป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เนื่องจากกติกาที่พิกลพิการ เราจึงจำเป็นต้องประสานกับพรรคต่างๆ...

ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพ มีการจัดเวทีโต๊ะกลมหัวข้อ “ข้อเสนอประชาชนต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี : ร่วมกำหนดวาระการเมืองที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” โดย คณะกรรมการญาติพฤษภา 35 และเครือข่ายประชาสังคม หนึ่งในวิทยากร คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ซึ่งกล่าวในตอนหนึ่งว่า ในวันพรุ่งนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะไม่ว่าจะนั่ง นอน หรือตีลังกาโหวต พลเอกประยุทธ์ก็ได้เป็นนายกฯ เพราะรัฐธรรมนูญออกแบบมาแล้ว อย่างไรก็ตาม มองว่า ถึงบิ๊กตู่จะเป็นนายกฯ ได้ แต่เชื่อว่าอยู่ไม่ได้ ตนหวังว่าจะอยู่ได้นานกว่าพลเอกสุจินดา คราประยูร ซึ่งอยู่ได้ 47 วัน สภาในวันที่ ไม่มี ม.44...

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ แสดงความเห็นกรณีปัญหาการเจรจาตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า พรุ่งนี้รัฐสภากำลังจะลงมติเลือกนายกฯ ให้กับคนที่ทำเป็นไม่สนใจใยดีกับการลงมตินี้เลย และสมาชิกก็กำลังจะลงมติกันไปโดยไม่มีโอกาสสอบถามว่าเขาเต็มใจหรือไม่ หรือคิดยังไง ทั้งๆที่เขาคือผู้บงการทั้งหมดตั้งแต่ก่อนการรัฐประหารด้วยซ้ำ #เลือกนายกฯต้องโปร่งใสตรงไปตรงมา พลังประชารัฐแถลงร่วมกับ 5 พรรคก็คือยังเป็นเสียงข้างน้อย แล้วจะตั้งนายกฯได้ยังไง ทำไมไม่ชวน ส.ว. 250 คนให้ส่งตัวแทนมาร่วมแถลงด้วยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย #เลือกนายกฯต้องโปร่งใสตรงไปตรงมา เมื่อไม่มีกฎหมายเขียนไว้ สภาก็สามารถมีมติให้แคนดิเดทนายกฯมาร่วมประชุมได้ หรือประธานจะเชิญมาเลยก็ได้ เมื่อเชิญแล้วผู้ได้รับเชิญจะมาหรือไม่มาก็ได้ มาก็เป็นเรื่องดี ไม่มาก็น่าอับอายขายหน้า #เลือกนายกฯต้องโปร่งใสตรงไปตรงมา การตกลงร่วมรัฐบาลมีมานานแล้ว ถึงขั้นตกลงตำแหน่งประธานสภาแล้ว แบ่งกระทรวงกันแล้ว เพียงแต่ยังต่างกันอยู่ในรายละเอียด แต่ที่ทำกันไปนั้นทำไปทั้งๆที่บางพรรคยังไม่ลงมติเลย แล้วก็มาพูดถึงมติพรรคเป็นเรื่องสำคัญนักหนา #เลือกนายกฯต้องโปร่งใสตรงไปตรงมา พรรคที่ได้ชื่อว่ามีความเป็นสถาบันมากที่สุดกำลังอยู่ในสภาพสับสนอลหม่านขาดความเป็นสถาบันอย่างชัดเจนที่สุด ผลการลงมติของพรรคนี้จะเป็นอย่างไรคงเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วได้ยากเสียแล้ว...

นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทยรักธรรม ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรื่องผลการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ว่า เป็นการยื่นคำร้องที่ไม่ได้ศึกษาข้อกฏหมาย เพราะหลักการและอำนาจการคำนวณคะแนน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.ที่คำนวณและรวบรวมคะแนนทั้งหมดตามความเป็นจริง เมื่อรวมคะแนนแล้ว พรรคการเมืองใดได้จำนวนคะแนนเท่าใด จะนำไปสู่การกำหนดจำนวนส.ส.ที่ทุกพรรคพึงมี ดังนั้น เมื่อดูจากคะแนนรวมของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงทำให้พรรคฯ ได้จำนวน ส.ส.เพิ่ม 1 คน ซึ่งเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการดังกล่าว การคำนวณต้องดูคะแนนของแต่ละพรรคโดยรวมด้วย ขอยืนยันว่าการได้จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม 1 คนคือ น.ส.จิตภัสร์...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจบการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับ 5 พรรคการเมือง ที่โรงแรมสุโกศล ซึ่งปรากฏว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และแกนนำกลุ่มสามมิตร ได้ลุกออกไประหว่างการแถลงข่าว ต่อมาแกนนำกลุ่มสามมิตร นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ และนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ได้นัด ส.ส. ในกลุ่มกว่า 30 คน ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมหารือการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ นานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสุริยะให้สัมภาษณ์ว่า เรามาปรึกษาหารือกันว่าจะกำหนดตัวบุคคลที่จะอภิปรายสนับสนุน...

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนาว่า ที่ประชุมพรรคมีมติตอบรับคำเชิญเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรคการเมืองอื่นๆ ทางพรรคชาติพัฒนาจึงได้มีมติมอบหมายให้ตนและนายประเสริฐ บุญชัยสุข รองหัวหน้าพรรค ไปปรึกษาหารือร่วมกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค เพื่อตัดสินใจในการเข้าร่วมรัฐบาล พรรคชาติพัฒนาได้ดำเนินการตามมติพรรคที่มอบหมาย โดยวันนี้ได้ประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วและมีมติพรรคอย่างเป็นทางการตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐตามที่ได้รับเชิญ โดยจะมีการหารือร่วมกันระหว่างทั้งสองพรรคในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมอบหมายภารกิจในการทำงานร่วมกัน และจัดทำนโยบายของรัฐบาลต่อไป นายเทวัญกล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาได้แนบนโยบายก้าวหน้า ก้าวไกล ไทยไร้ปัญหา ซึ่งเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมของพรรคที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน ซึ่งพรรคชาติพัฒนามีความมั่นใจว่าสามารถนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นทุกประการ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล่าวว่า ไม่มีเงื่อนไขอื่นในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนข้อตกลงเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น นายเทวัญกล่าวว่า ต้องไปคุยกันอีกครั้ง ซึ่งพรรคผ่านงานมาทุกด้านแล้ว วันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) 3...

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า 7 พรรคการเมืองมีมติเสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ซึ่งบุคคลที่ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควรจะได้แสดงวิสัยทัศน์ในรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่านายกรัฐมนตรีมีวิสัยทัศน์อย่างไร ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยเรื่องสมาชิกภาพจากคดีถือครองหุ้นสื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า อำนาจการพิจารณาวันพรุ่งนี้เป็นหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยยืนยันแล้วว่าบุคคลที่ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้