นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์ การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงการพยายามตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ว่า ตนคิดว่าผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่มีโอกาสเข้าสภา หากไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วจะยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ แน่นอน ถือเป็นเฮือกสุดท้ายที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะต้องสู้อย่างเต็มที่ เพราะมองดูแล้วเสียงยังปริ่ม และการแสดงออกมานั้นหากไม่สมหวัง อาจชวนพี่น้องประชาชนออกมาโดยสร้างความขัดแย้งอีกหรือไม่ เพราะแต่ละคนที่ออกมาพูดในลักษณะเหมือนเรียกร้องในมุมของตัวเองเป็นหลัก และทำให้ประชาชนเป็นเดือดเป็นแค้น เป็นการจุดชนวนความขัดแย้งหรือไม่ รวมทั้งที่พวกเขาพยายามเรียกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ตรงนี้เหมือนพยายามแบ่งฝักแบ่งฝ่าย บีบคนที่ไม่สนับสนุนตนเองเป็นเผด็จการ ไม่ทราบว่าจะฟ้องร้องได้หรือไม่ นักกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐกำลังสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ เมื่อถามถึง การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงรับรองผลการเลือกตั้ง จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงนี้ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจเต็มไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ เป็นจุดแข็งหนึ่งที่ทำให้ช่วยเหลือประชาชนได้เต็มที่ อย่างเช่น ฝนทิ้งช่วง ความแห้งแล้ง...

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว กล่าวถึงการรวบรวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า ก่อนถึงวันที่ 9 พ.ค.สถานการณ์ยังเปลี่ยนแปลงได้อีก ก่อนหน้านี้เราก็เห็นถึงความผิดปกติของกกต.ที่ไม่ยอมประกาศผลนับคะแนนออกมา และเมื่อประกาศออกมาก็เห็นถึงความผิดปกติทั้งเรื่องจำนวนบัตร ผู้มีสิทธิออกเสียง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นกว่าจะถึงวันที่ 9 พ.ค. กกต. อาจสร้างอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ มีการสอย ส.ส. มีการแจกใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยตนยังมองว่ายังมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเป็นแกนในนำตั้งรัฐบาล แต่ต้องดูว่า กกต. หรือผู้มีอำนาจเหนือ กกต. จะสั่งการมายัง กกต. ให้ใช้อำนาจโดยมิชอบอีกหรือไม่ “ผมเป็นห่วง กกต....

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถ้ายังจะแก้ตัวด้วยเหตุผลบัตรเขย่ง อีกต่อไป #แม่จะไม่ทนค่ะ กกต. อ้างว่าคนทนรอคิวไม่ไหว เลยรับบัตรแล้วกลับบ้านไปก่อน มันเป็นไปได้เหรอคะ? คนต่อคิวแล้วรอไม่ไหวกลับบ้านไปก่อน อันนี้พอเข้าใจได้ แต่ต่อคิวจนเซ็นชื่อ และรับบัตรไปแล้ว ยังจะต้องต่อคิวอะไรอีกคะ? ก็แค่เดินไปกากบาทแล้วหย่อนบัตรลงหีบ เกิดจะรอไม่ไหวอะไรกันตอนนี้ กฎเหล็ก 7 ข้อของ กกต. ระบุไว้ในข้อ2.ชัดเจนว่า  “ห้ามมิให้นำบัตรเลือกตั้งออกนอกหน่วย ใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ไม่เกิน 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี” กฏหมายกำหนดแบบนี้แล้ว...

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยนายกฤช กล่าวว่า ขอชี้แจงใน 4 ประเด็นที่มีข้อสงสัย 1.กรณีมีผู้สงสัยว่า ตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ ประธาน กกต. แถลงในวันที่ 24 มี.ค. จำนวน 51,205,624 คน กับตัวเลขที่ตนแถลงเมื่อวันที่ 28 มี.ค. จำนวน 51,239,638 คน มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 34,014 คน อย่างผิดปกตินั้น...

ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ถูกจับจ้องว่าจะมีงูเห่า ว่า ยอมรับว่า ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่โดนทาบทามจริงด้วยการให้ผลประโยชน์ต่างๆ แต่เชื่อว่า ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันด้วยความเชื่อและความฝันเดียวกันไม่ใช่กลุ่มคนที่รวมตัวกันเพราะอยากจะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือผลประโยชน์ทางการเงิน จึงเชื่อมั่นว่า ว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคนจะยืนหยัดในหลักการที่เราร่วมก่อร่างสร้างพรรคนี้มาด้วยกัน และมั่นใจว่า ส.ส. พรรคอนาคตใหม่จะไม่มีใครย้ายข้างแปรขั้ว นายธนาธร กล่าวว่า จำนวนของว่าที่ ส.ส. ที่โดนทาบทามนั้น เชื่อว่าสื่อมวลชนเองก็ทราบอยู่แล้ว ตนไม่จำเป็นต้องพูด แต่ยืนยันว่ามีการพูดคุยและให้ข้อเสนอจริง เนื่องจาก ส.ส. ของพรรคได้มีการแจ้งข้อมูลเข้ามาที่ส่วนกลาง ซึ่งการดำเนินการขั้นแรกจะรวบรวมข้อมูลเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้นจะนำไปหารือในการอบรมว่าที่ ส.ส. ใหม่ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 30-31 มี.ค.นี้...

ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงผลการนับคะแนนว่า ยังพบข้อมูลคะแนนมีความสับสน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงาน ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งต้องใช้ความโปร่งใส และแม้ผลคะแนนที่สับสนจะไม่กระทบต่อการร่วมมือทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยกับอีก 6 พรรคการเมืองที่ได้ร่วมลงสัตยาบันหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่ขอเรียกร้องให้ กกต.ทำความชัดเจนให้เรียบร้อยก่อนการรับรอง ส.ส. ในวันที่ 9 พ.ค. เพราะอาจนำไปสู่ความเคลือบแคลงได้ อย่างไรก็ตาม ข้อร้องเรียนที่พบความผิดปกติในการเลือกตั้งในหลายพื้นที่นั้น พรรคจะยังไม่นำไปสู่การฟ้องร้องเอาผิด กกต. วันนี้ขอเรียกร้องให้ กกต.ทำความชัดเจนเรื่องผลคะแนนเพียงเท่านั้น  ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทุจริตเลือกตั้ง โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล...

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการนับคะแนนการเลือกตั้งและมีการคะแนนของประชาชนเพิ่มขึ้น ว่า ไม่ทราบ และเป็นการชี้แจงของ กกต. ซึ่งตนได้ฟังการชี้แจงจากรองเลขาธิการ กกต.ผ่านทางสื่อโทรทัศน์ ก็อธิบายได้ค่อนข้างชัดเจน ว่าการแถลงข่าวผลการนับคะแนนในครั้งแรก ไม่ได้มีการนับคะแนนจากต่างประเทศและคะแนนการเลือกตั้งล่วงหน้า และเมื่อมีการนับรวม ก็ทำให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาเรื่องบัตรเขย่งที่เกิดขึ้นนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า บัตรเขย่งเป็นคำศัพท์ที่มีมานาน ตนรู้จักตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ หมายความถึงตัวเลขที่ไม่ตรงกัน จึงเรียกว่าบัตรเขย่ง และเป็นศัพท์ที่กระทรวงมหาดไทยใช้กัน ซึ่งเมื่อ กกต.มาใช้ อาจจะทำให้หลายคนเกิดความสับสน และกกต. ได้ชี้แจงว่ามีบัตรเขย่งจำนวน 9 ใบ ซึ่งหากมีบัตรเขย่งจำนวนมาก ก็อาจถือว่าผิดปกติ แต่หากมี 9 ใบ...

ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย นำโดย นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย เขต 3 นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ เขต 5 มายื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดการเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการใหม่ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า การเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการมีการทุจริตอย่างเป็นระบบ โดยใช้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบรริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ผู้ใหญ่บ้าน กำนันเป็นกลไกลหาเสียงทุกเขตเลือกตั้งของสมุทรปราการทั้งจังหวัด ทำให้วาทกรรมสมุทรปราการเมืองโคตรโกงกลับมาหลอกหลอน จึงขอคัดค้านการเลือกตั้งและขอให้จัดการเลือกตั้งใหม่ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของคนสมุทรปราการ “การทุจริตซื้อสิทธิขายเสียงแบบเทกระจาดที่เกิดขึ้นเป็นการนำโมเดลโคตรโกงในสมุทรปราการไปเป็นโคตรโกงทั้งแผ่นดิน กลายเป็นโคตรโกงทั้งชาติ มีครบทั้งเวียนเทียนบัตร ยัดบัตรใส่หีบ เด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เลือกตั้งและคนที่ตายไปแล้วยังมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กกต.จึงต้องตรวจสอบ หากไม่ทำถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายประเสริฐ กล่าว นางลลิลทิพย์ กล่าวว่า...

นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การคำนวณที่นั่ง ส.ส. หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดยนำคะแนนบัตรดีของการเลือกตั้งครั้งนี้ 35,532,645 ใบ หารกับ 500 ซึ่งคือจำนวน ส.ส.ทั้งหมด ทำให้ได้ค่าเฉลี่ยของเสียงต่อ ส.ส. 1 ที่นั่ง หรือ 71,065.294 คะแนน จากนั้นนำมาหารคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับ จะได้ที่นั่ง ส.ส. ที่พึงได้รับ ซึ่งผลออกมา ทำให้บางพรรค คือ พรรคเพื่อไทยที่ได้จำนวน ส.ส.เขตไปแล้วมากกว่าจำนวน ส.ส.ที่พึงได้รับ จึงไม่ได้รับจัดสรรให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม ทั้งนี้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง...

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลง ภายหลัง ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค เพื่อกำหนดทิศทางของพรรค ในการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายและการทำงานหลังการเลือกตั้ง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 100% ว่า พรรคพลังประชารัฐยืนยัน สามารถรวบรวมเสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลครบถ้วนถูกต้อง เพราะ กกต. ยังไม่ได้ประกาศและรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นายอุตตม กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐออกแถลงการณ์ 3 ข้อ คือ 1. ยึดมั่นจะทำหน้าที่ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ขอให้ทุกพรรคการเมืองเคารพเสียงของประชาชน และ 3. พรรคพลังมีจุดยืนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ทุกพรรคการเมืองสามารถรวมเสียงกันได้ แต่ต้องรอผลเป็นทางการจาก กกต.ก่อน...

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สมุทรสาคร ในฐานะอดีตกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Somchai Srisutthiyakorn ระบุ บัตรเขย่ง ฤาเขย่า กกต.ว่า การแถลงข่าวของ กกต.เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 มีการกล่าวถึงจำนวนที่ไม่ตรงกันระหว่างจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์กับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่หายไป จำนวน 9 ใบ ซึ่ง กกต.เรียกว่าบัตรเขย่ง กล่าวคือ จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ มากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบ เมื่อนับบัตรทั้งหมดที่มีแล้วน้อยกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 9 ราย โดย กกต.ให้เหตุผลว่า อาจจะเซ็นชื่อแล้วไม่รับบัตร เหตุผลดังกล่าวแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะโต๊ะเซ็นชื่อกับโต๊ะรับบัตรติดกัน...