นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยอมรับว่า ตนเองเป็นหนึ่งในกรรมการชุดนี้ ซึ่งไม่ทราบมาก่อนและยังไม่เห็นหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อวานและเมื่อเช้าได้รับการประสานทางโทรศัพท์แจ้งให้ทราบ เบื้องต้นคณะกรรมการยังไม่มีการนัดวันประชุมกัน และไม่ทราบว่าคณะกรรมการชุดนี้มีจำนวนกี่คน ทราบเพียงว่ามี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ซึ่งตามกฏหมายคณะกรรมการชุดนี้ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่มากกว่า 12 คน มาทำหน้าที่ในการคัดเลือกผู้สมัครจากทั้งหมดให้เหลือ 400 คน และต้องทำให้เสร็จ 15 วันก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อเสนอต่อให้ คสช. เลือกให้เหลือ 194 คน บวกกับสำรองอีก 50 คน ซึ่งในกระบวนการพิจารณาของ...

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อขอให้ กกต. ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 ที่ระบุว่า บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่งใน (15) ระบุไว้ว่า เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ นายเรืองไกรกล่าวว่า การที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ตนมองว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ติดใจ แต่การเป็นหัวหน้า คสช. มองว่าจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่...

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองนำประเด็นยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปหาเสียงว่า ต้องทำความเข้าใจต่อสังคม เพราะเรื่องนี้เป็นมิติของความมั่นคงที่มีผลกระทบรอบด้าน รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ โดยเฉพาะฉบับล่าสุดปี 2560 กำหนดหน้าที่ของรัฐในการพิทักษ์รักษาซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การรักษาเอกราช อธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ภาพรวมของทหารใช้กำลัง 1 ใน 3 ไปปฏิบัติภารกิจการป้องกันชายแดน รวมถึงพื้นที่ภาคใต้ อีก 2 ใน 3 เป็นการฝึกตามวงรอบ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า เหตุผลที่กองทัพต้องเกณฑ์ทหาร เพราะในกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกฉบับบัญญัติไว้ และมี พ.ร.บ.การรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ระบุว่า เนื่องจากมิติความมั่นคงต้องรักษาดุลยภาพเป็นพลังอำนาจ...

ที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ​จากจังหวัดพิจิตร 2 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอความเป็นธรรมในการวินิจฉัยคำร้องคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยอ้างว่าหากศาลพิจารณายุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม จะกระทบสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 108 คน และเขตเลือกตั้งอีก 176 คน รวม 284 คน นอกจากนั้นยังมีนายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ที่เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เช้า แต่ไม่ได้ระบุว่ามาทำอะไร อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายรุ่งเรืองเคยชี้แจงว่าได้ยื่นหนังสือลาออกก่อนจะมีการประชุมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคไทยรักษาชาติ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมติคณะกรรมการบริหารพรรคในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ในเวลา 13.30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาคดีที่ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ...

จากกรณีอัยการนัดฟังคำสั่งคดีกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จัดรายการไลฟ์สดวิจารณ์การดึงคนเข้าพรรคของพรรคพลังประชารัฐ โดยอัยการนัดฟังคำสั่งคดีอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคม 2562 ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ล่าสุดนายธนาธรได้ทวิีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ผมและพรรค #อนาคตใหม่ เดินหน้าทำงานเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ไม้สุดท้ายในการสกัดกั้นพวกเรา ขอให้ #Futurista ทุกท่านร่วมเป็นหูเป็นตาตรวจสอบให้การเลือกตั้งครั้งนี้เสรีและเป็นธรรมให้จงได้ครับ”

นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธไม่ร่วมดีเบตเพราะเสียเวลาที่ต้องประดิดประดอยคำพูดว่า การดีเบตเป็นการร่วมประชันวิสัยทัศน์ของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนจะได้มีโอกาสเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ และมีทางเลือกให้กับประเทศในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้ นายธนากล่าวว่า ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีสามารถใช้โอกาสในการดีเบตเพื่อเป็นการแสดงความรู้ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน และประชาชนสามารถนำไปใช้ประกอบในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้ ที่สำคัญการดีเบตถือเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ผู้ดีเบตจะต้องรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายจากผู้ร่วมดีเบตคนอื่นๆอย่างมีเหตุผล “นายกฯประยุทธ์เป็นหัวหน้า คสช. มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาจากการยึดอำนาจ ดังนั้น จึงไม่เข้าใจถึงการเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายอันเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมาเกือบ 5 ปี นายกฯประยุทธ์ใช้วิธีพูดสื่อสารทางเดียวมาตลอด ดังนั้น นายกฯประยุทธ์น่าจะใช้โอกาสนี้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์กับผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากทุกพรรค เพื่อเป็นการแสดงถึงการเปิดใจกว้างรับฟังและถกแถลงอย่างมีหลักการ เหตุผล” นายธนาย้ำว่า การดีเบตไม่ใช่สิ่งเลวร้ายหรือเป็นวังวนต้นเหตุแห่งความไม่สงบ ตรงกันข้ามการได้รับรู้ความคิดเห็นจากผู้ร่วมประชันวิสัยทัศน์ถือว่าเป็นเสียงจากประชาชนที่สะท้อนผ่านแนวคิดของผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ปฏิเสธร่วมเวทีดีเบตว่า การไม่ร่วมดีเบตของ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของพรรค และไม่เชื่อว่าจะเสียประโยชน์ เพราะประชาชนได้พบปะ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว และ พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) แล้วว่าการดีเบตอาจจะไม่จำเป็น “ผมเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับคะแนนนิยมของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง เพราะว่าหากพรรคจัดเวทีที่มีความเหมาะสมให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสพบปะกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผมคิดว่าไม่มีผลอะไร และกลับจะเป็นผลดีด้วยซ้ำ” อย่างไรก็ตาม นายอุตตมกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะหารือกันอีกครั้งว่าจะร่วมดีเบตในรูปแบบไหน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นรูปแบบเดิม และจะรอการพิจารณาของ กกต. ว่าผลจะเป็นอย่างไรเพื่อพิจารณาประกอบ โดยจะใช้แนวทางที่เป็นประโยชน์ที่สุดเพื่อก้าวไปสู่การเลือกตั้งที่จะมาถึง และต้องทำกิจกรรมให้ตรงเป้าหมายที่สุด “ยืนยันว่ารูปแบบการจัดเวทีดีเบตจะต้องให้ผู้ฟังได้รับประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่จัดเพื่อวาทกรรมทางการเมือง พรรคพลังประชารัฐดูที่คนและนโยบายเป็นหลัก และอยากให้ทุกพรรคชี้แจงนโยบายผ่านการดีเบต เพราะเป็นสาระสำคัญของคนไทยที่กำลังจะก้าวไปสู่การเลือกตั้ง”...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดีที่บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ระงับการออกอากาศช่องรายการวอยซ์ทีวีเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป กรณีกล่าวหาว่ามีรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามมิให้ออกอากาศตามกฎหมายและขัดต่อเงื่อนไขในการประกอบกิจการโทรทัศน์ฯตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง กสทช. กับวอยซ์ ทีวี โดยคู่ความทั้งสองฝ่ายได้เดินทางมาที่ศาลตั้งแต่เวลา 09.30 น. นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด กล่าวว่า วอยซ์ทีวีมีความบริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่ โดยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลไปหมดแล้ว คงไม่มีประเด็นใดต้องชี้แจงเพิ่ม ส่วนศาลจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล วอยซ์ทีวีจะรอฟังคำพิพากษาของศาลก่อนจึงจะพิจารณาว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป...

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้สนับสนุน “พรรคอนาคตใหม่” ได้เดินทางมารอให้กำลังใจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ตกเป็นผู้ต้องหาคดีที่ถูก พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ในฐานะตัวแทนของ คสช. แจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชนจากกรณีจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ในเพจอนาคตใหม่-The Future We Want และเพจ Thanathorn...

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมว่า สวัสดีครับ พี่น้องมวลมหาประชาชนทุกท่าน จากโพสต์ที่แล้วของผมที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทั้ง 2 ฟากฝั่ง มียอดคนเข้ามาอ่านแล้วกว่าหนึ่งล้านสามแสนราย มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่าสามพันคน มีคนกดไลค์กว่าหนึ่งหมื่นห้าพันครั้ง และถูกแชร์ออกอีกไปเกือบสี่พันครั้ง บางคนคอมเมนต์ว่าจงใจจะเรียกคะแนนจากคน กปปส.เก่าเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ เข้าใจถูกแล้วครับ! ผมเรียกเพราะหลายๆคนที่เขารักชาติรักสถาบันเห็นว่าประเทศกำลังจะไม่ปลอดภัย “อีกแล้ว” “แม้ไม่ได้ชวนก็พร้อมจะออกมา และไม่ต้องท้าก็พร้อมจะลุยสู้” “เพราะอึดอัดเหลือทน” มีพี่น้องมวลมหาประชาชนหลายท่านได้ขอให้ผมนำความคิดเห็นของท่านอื่นๆจากหลากหลายวงการมา “ชี้เป้า” ให้ได้อ่านกันอีกในวันต่อๆไปด้วย …ยินดีครับ ผมเชื่อว่าวันนี้มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังคง “หัวร้อน” กับผลงานสุดแสนอัปยศจาก “ระบอบทักษิณ” เลยขอยกมาเตือนความทรงจำกันสักหน่อย… จำได้ไหมกับคดีปล่อยเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ 4 พันล้าน คดีแปลงสัมปทานมือถือ-ดาวเทียม คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้...

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังการประชุม ครม. ว่า คำถามของสื่อแต่ละคำถามเจ็บๆทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสื่อ เพราะนักข่าวก็ทำงานไป เราก็มีงานของเรา ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เห็นหนังสือประชารัฐสร้างชาติของพรรคพลังประชารัฐแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้เห็นแล้ว เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงของนายกฯทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ทราบว่ามีการแจกเฉพาะผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรค ขณะที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อตนเป็นนายกฯก็เป็นเรื่องของพรรค เมื่อถามว่าได้เตรียมตัวขึ้นเวทีดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯพรรคอื่นแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เตรียมตัวมานานแล้ว แต่วันนี้ไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะไปดีเบต ไม่ใช่กลัวหรือไม่กลัว แต่เมื่อดูเวทีดีเบตตอนนี้ก็จะเห็นว่าเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่เป็นการโจมตีกัน ไม่ค่อยมีสารัตถะ เถียงกันในตอนต้น แต่เมื่อเข้าสู่นโยบายกลับไม่มีใครสนใจอะไร เนื้อหาก็ดิ้นไปกับการโจมตีคนนั้นคนนี้ เล่นไปถึงการทำงานของกระทรวงต่างๆ ซึ่งไม่เรียกว่าการดีเบต “ขอให้ไปดูในต่างประเทศว่าเวทีดีเบตเป็นอย่างไร ผมคงไม่ไปหรอกตอนนี้ ไม่ว่าใครจะมากระตุ้นอย่างไร...