นายสามารถ แก้วมีชัย ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคไทยรักษาชาติ จะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาคนมองภาพว่าเป็นเนื้อเดียวกัน ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แต่ละพรรคก็ว่ากันไป เพราะแต่ละเขตเราก็ยังต้องสู้กันเลย ดังนั้น เราคงไม่ไปก้าวล่วงหรือก้าวก่ายเรื่องของพรรคไทยรักษาชาติ และเชื่อว่าไม่มีอะไรมากระทบ เราก็เดินหน้าของเราไป เพราะไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้ทุกคนของพรรคเพื่อไทยก็เดินหน้ารณรงค์หาเสียงอย่างเต็มที่ และระวังไม่ให้พลาดจนเป็นเหตุให้โดนเรื่องทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือเหตุที่จะนำมาสู่การยุบพรรค เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยกังวลเรื่องการเร่งคดีที่แกนนำของพรรคแถลงครบรอบ 4 ปี คสช. หรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่ากังวลเลย เพราะวันนี้คำสั่งทั้งหลายที่เคยประกาศก็ถูกยกเลิกไปหมดแล้ว หากจะใช้ช่องทางมาตรา 116 ก็คงมีประเด็นที่ต้องต่อสู้กันยาว และไม่ใช่เรื่องที่จะนำมายุบพรรค...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณากรณีการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติที่เสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าเข้าข่ายผิดมาตรา 92 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือไม่ ที่ประชุมได้มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าสมควรยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเอกภพ เหล่าลาภะ เลขาธิการศูนย์ประสานงานองค์กรชาวพุทธแห่งชาติ เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำความผิดและตัดสิทธิเลือกตั้งนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กรณีใช้คำว่า “น้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาทุกข์ร้อนให้กับประชาชน คืองานของพรรคประชาชนปฏิรูป” การระบุคำว่า “พระพุทธเจ้า” สื่อความหมายได้ว่าเป็นการนำเอาพระพุทธศาสนามาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 ที่กำหนดไม่ให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 14 เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ พ.ร.บ.สงฆ์ ดังนั้น เพื่อระงับยับยั้งป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์ ตนและเครือข่ายขอให้ กกต. ตรวจสอบพรรคประชาชนปฏิรูปว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจริงขอให้ตัดสิทธิทางการเมือง และส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคต่อไป

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คระบุว่า “เลือกพลเอกประยุทธ์ หยุดการเมืองนอมินี” “ผมในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อหยุดยั้ง “วงจรการเมืองนอมินี” ที่สร้างปัญหาและความเสียหายให้กับประเทศ ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์เป็นอดีต ผบ.ทบ. เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นตัวจริงเสียงจริง มีภาวะผู้นำสูง มีการตัดสินใจบริหารราชการเพื่อประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องรับใช้ใครที่อยู่หลังฉากจากแดนไกล สถานการณ์การเมืองล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงความเลวร้ายของการเมือง “ระบบนอมินี” ที่จะทำลายระบบการเมืองไทย สร้างความเสียหายที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติ โดยทั้งหมดนี้มาจากการเมืองนอมินีทั้งสิ้น ผม..ขอเรียกร้อง..ให้คนไทยผู้รักชาติ..ช่วยกันหยุดระบบนอมินีให้หมดจากประเทศไทย ซึ่งจะเป็นภารกิจสำคัญลำดับแรกของพลเอกประยุทธ์ ขอให้เชื่อใจ ไว้ใจ มั่นใจเลือกพรรคพลังประชารัฐ เลือกพลเอกประยุทธ์กลับมาเป้นนายกรัฐมนตรี ขจัด “ระบบนอมินี” ให้สิ้นด้วยกันครับ”

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊คและทวิตเตอร์แสดงความเห็นกรณี ทษช. ยื่นรายพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายหลังมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ กกต. ทำมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อยุบ ทษช. โดยนายจาตุรนต์ระบุว่า “เห็บกระโดดที่ไหนกัน รู้สึกวาทกรรม “เห็บกระโดด ตอนหมาจะตาย” ทำท่าจะฮิต อยากจะบอกแบบสบายๆว่า ผมไม่คิดว่า ทษช. จะถูกยุบง่ายๆ แต่ถ้าถูกยุบจริงๆผมจะอยู่จนถึงวันยุบเป็นคนสุดท้าย เหมือนที่เคยทำมาแล้วที่ไทยรักไทยครับ”

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) วอยซ์ ทีวี ระบุในแถลงการณ์ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้พักใช้ใบอนุญาตวอยซ์ทีวีเป็นเวลา 15 วัน โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ว่า รอบนี้ถึงเวลาต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองพร้อมเรียกค่าเสียหาย ซึ่งคำนวณย้อนหลังแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท นายเมฆินทร์ระบุว่า ที่ผ่านมาวอยซ์ทีวีให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด แม้จะเห็นแย้งในประเด็นกฎหมายเรื่องหลักการใช้อำนาจของ กสทช. ที่มักอ้างคำสั่ง คสช. และเอ็มโอยูที่ทางสถานีมองว่าไม่มีผลบังคับ แต่ที่ไม่ดำเนินการทางกฎหมายเพราะหวังว่าการให้ความร่วมมือจะทำให้สถานีได้ทำงานต่อโดยราบรื่น อย่างไรก็ตาม...

กรณีนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิเคราะห์การเมืองรายการโทรทัศน์และคอลัมนิสต์ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า วันนี้ช่องวอยซ์อาจโดนสั่งระงับการออกอากาศ 15 วัน หรือ “จอดำ” เนื่องจากวิจารณ์รัฐบาลนั้น ล่าสุดรายงานข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. แถลงผลประชุมบอร์ด กสทช. ต่อเรื่องดังกล่าว มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต 15 วัน มีผลตั้งแต่ 00.00 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 พร้อมระบุว่าเป็นการพิจารณาภายใต้กฎหมาย ไม่ได้เป็นคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากยังไม่ปรับปรุงจะเพิ่มโทษหรือเพิกถอนใบอนุญาต สำหรับความผิดมาจาก...

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ได้เดินทางมาที่ที่ทำการพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถยนต์คันเดียวกัน ก่อนจะยิ้มแย้มยกมือไหว้ทักทายผู้สื่อข่าว โดยถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ ร.ท.ปรีชาพล ที่วันนี้ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนอื่นขอเรียนว่า พวกเรากรรมการบริหารพรรค รวมถึงสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ทุกพระองค์ (พร้อมยกมือถวายบังคมเหนือศีรษะ) ทั้งนี้ หลังจากที่ กกต. มีมติเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ที่ไม่ประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคไทยรักษาชาติ พวกเราถือว่าเมื่อมีมติออกมาแล้วก็ถือว่าเป็นที่ยุติ ซึ่งเราไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะเราได้แถลงน้อมรับพระราชโองการไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม...

นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิเคราะห์การเมืองรายการโทรทัศน์และคอลัมนิสต์ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า ยิ่งใกล้เลือกตั้ง สื่อควรมีเสรีภาพในการทำงานได้เต็มที่ แต่วันนี้วอยซ์อาจโดนสั่งระงับการออกอากาศ 15 วัน หรือ “จอดำ” แปลว่าท่านเปิดทีวีก็จะไม่มีเราทุกรายการ ผมไม่ทราบว่าคำสั่งนี้มีผู้มีอำนาจสั่งการมายังองค์กรที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่นี่คือการใช้อำนาจรัฐคุกคามประชาชนที่น่ารังเกียจครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่พวกท่านอยากเป็นรัฐบาลต่อ, ส่งรัฐมนตรีไปตั้งพรรคหนุนพวกเดียวกัน รวมทั้งผู้ชิงตำแหน่งนายกฯของพลังประชารัฐบังคับให้โทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดการพูดข้างเดียวของท่านมาตลอดห้าปี ทุกวันนี้สังคมครหาว่าผู้มีอำนาจใช้ตำแหน่งและกฎหมายเพื่อให้ตัวเองเป็นนายกฯต่อจนน่าละอายอยู่แล้ว อย่าทำให้สังคมเห็นว่าท่านกลัวแพ้จนปิดปากฝ่ายที่เห็นต่างและเอาเปรียบทุกวิถีทางอีกเลยครับ เห็นอยู่แล้วว่ายัดเยียดตัวเอง คะแนนนิยมก็ไม่เพิ่ม ทุกหกโมงมีแต่คนปิดทีวีหนี แล้วจะยิ่งทำให้คนเห็นธาตุแท้เรื่องใช้อำนาจบาตรใหญ่อีกทำไม อยากได้อำนาจทำไมไม่กล้าแข่งกับคนอื่นแบบแฟร์ๆ หาทางเอาเปรียบเพื่อชัยชนะแบบนี้ ไม่คิดหรือว่าคนในประเทศเขาจะรังเกียจกระทั่งไม่อยากยกมือไหว้คุณ ทุกวันที่วอยซ์จอดำไป 15 วัน คือหลักฐานของการใช้อำนาจเพื่อปิดหูปิดตาเพียงเพื่อสนองความกระหายอำนาจของคนบางคน ฝากพรรคพวกในพลังประชารัฐไปบอกนายด้วยครับว่าทำแบบนี้มันน่าอาย ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง บ่ายของวันอังคารที่ 12 จะมีคำสั่งนี้ออกมา และคนไทยจะเห็นอำนาจมืดปิดสื่อเพียงเพราะรายงานข้อเท็จจริงที่ผู้มีอำนาจและพรรคนั้นไม่ต้องการ ไม่ว่าข้ออ้างอย่างเป็นทางการจะเป็นอะไรก็ตาม

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่กังวลที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค และมีลักษณะต้องห้าม “ยืนยันว่ากระบวนการพิจารณาและการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีส่วนใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีอะไรน่ากังวล เรื่องนี้ไม่มีประเด็น” นายอุตตมกล่าว ส่วนแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์จะมาช่วยหาเสียงนอกเวลาราชการนั้น นายอุตตมกล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังหารือเรื่องนี้อยู่ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์มีส่วนร่วมกับพรรคทั้งทางนโยบายและการรณรงค์หาเสียง ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเกิดความได้เปรียบ ต่อข้อถามว่าปัญหาการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติจะทำให้เกิดความได้เปรียบกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอุตตมย้ำว่า พรรคจะเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่วอกแวก เรื่องที่เกิดกับพรรคการเมืองอื่นคงไม่สามารถให้ความเห็นได้ สำหรับกรณีที่หลายพรรคการเมืองกังวลว่าจะมีการรัฐประหารและจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงสัปดาห์นี้ นายอุตตมเชื่อมั่นว่า กระบวนการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยยังดำเนินไป...

กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลว่า ปริมาณ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ทุกพื้นที่มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) มีค่าฝุ่นละออง 15-40 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก-ปานกลาง ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือเมื่อเวลา 10.00 น. พบว่า 1.ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 44-166 มคก./ลบ.ม. ปริมาณฝุ่นละออง PM10 เพิ่มสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าทุกสถานี 2.ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)...