พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยระบุว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านวิสัยทัศน์และการขับเคลื่อนการพัฒนาของผู้นําประเทศในอดีต และในวันนี้วิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาลชุดนี้คือ “มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในศตวรรษที่ 21” โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน 12 นโยบายหลัก ได้แก่ 1.ปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.สร้างความมั่นคงและปลอดภัยของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ 3.ทำนุบำรุงศาสนาและวัฒนธรรม 4.การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก 5.การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย 6.การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค 7.การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก 8.การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของไทยทุกช่วงวัย 9.การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม 10.การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 11.การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ และ 12.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรม ส่วนนโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน ได้แก่ 1.แก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน 2.ปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 3.มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก 4.การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม...

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 25 ก.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวก่อนเข้าร่วมการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยยืนยันว่าในฐานะรัฐบาลพร้อมชี้แจงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยได้เวลาในการอภิปราย 59 นาที จะเพียงพอหรือไม่นั้น นายอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า “ก็ดี จะได้พูดกันน้อยๆ ซึ่งมีทั้งการชี้แจงและอภิปรายสลับกันไป” ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจะจัดสรรผู้อภิปรายไว้ 12 คน 12 หัวข้อ คนละ 5 นาที  

วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.45 น. ที่หอประชุมทีโอที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาถึงเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คอยต้อนรับบริเวณทางเข้า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ เพราะเป็นครั้งแรกที่เดินทางเข้าสู่อาคารรัฐสภาและจะต้องแถลงนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มๆเพียงว่า “อยู่มา 5 ปีแล้ว ไม่ตื่นเต้น”

เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2562 ที่ศาลอาญา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดกรณีโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่งว่า อยากถาม ป.ป.ช. ว่าชี้มูลความผิดเรื่องอะไร ตนอ่านตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ เพราะฉะนั้นในเนื้อหาลึกๆขออนุญาตว่าให้ได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช. อย่างชัดเจนก่อน แล้วตนจะชี้แจงในแต่ละประเด็นตามข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นที่สนใจของประชาชน จำเป็นที่จะต้องมีคำอธิบายต่อประชาชนบ้าง กรณีเรื่องการก่อสร้างสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จได้มีการหยิบยกมาเป็นประเด็นทางการเมืองกล่าวหาโจมตีตนมาหลายปีแล้วเริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีก็คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะนี้ตนได้ดำเนินคดีกับนายธาริต และตอนนี้นายธาริตถูกพิพากษาจำคุก แต่กระบวนการในการพยายามดำเนินคดีกับตนก็ยังต่อเนื่องมา เฉพาะที่อยู่ ป.ป.ช. ใช้เวลาในการทำงานเรื่องนี้นาน 5 ปีเศษ...

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังคงตกต่ำต่อเนื่อง การส่งออกของไทยเดือนมิถุนายนยังคงติดลบต่อเนื่องที่ 2.15% ซึ่งเป็นการติดลบติดต่อกันตั้งแต่ต้นปี ทำให้ครึ่งปีแรกการส่งออกของไทยติดลบ 2.9% หากไม่รวมการส่งคืนยุทโธปกรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์และการส่งออกทองคำในเดือนมิถุนายน การส่งออกครึ่งปีแรกน่าจะติดลบถึง 5%  และปีนี้โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 3% ก็ยังอาจจะเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ แม้จะอ้างว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีส่วนทำให้การส่งออกติดลบ แต่หลายประเทศเช่น ประเทศเวียดนาม กลับไดัประโยชน์อย่างเต็มที่ การส่งออกของเวียดนามไปสหรัฐขยายตัวถึง 36% ตั้งแต่ต้นปี และปีนี้จะเป็นปีแรกที่ยอดการส่งออกของเวียดนามแซงหน้ายอดการส่งออกของไทยจากฝีมือการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตลอด 5 ปีนี้ และการที่เวียดนามมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปี ในขณะที่การลงทุนของไทยหดหายมาตลอด จะทำให้การส่งออกของเวียดนามแซงไทยมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆทุกปีแบบแซงแล้วแซงเลย ทั้งนี้เพราะความสามารถในการบริหารประเทศของผู้นำเวียดนาม อีกทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศที่มีต่อเวียดนามมีมากกว่าของประเทศไทยมาก จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ศึกษาว่าทำไมประเทศเวียดนามถึงได้บริหารประเทศได้ขยายตัวมากกว่าประเทศไทยมาก...

24 ก.ค. 2562 ณ อาคารรัฐสภา TOT เวลา 11.00 น. โบว์-น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ร่วมกันแถลงข่าว “ยุติข้อพิพาทในคดีหมิ่นประมาทฯ และร่วมรณรงค์หยุดการใส่ร้ายป้ายสีผ่านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (I.O.) และต่อต้าน Fake news” จากกรณีที่ น.ส.ณัฏฐาได้ทำการฟ้องร้องนายมงคลกิตติ์ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สืบเนื่องจากเนื้อหาในคลิปทาง YouTube ช่องหนึ่งที่มีการสื่อสารโยงเหตุอาชญากรรมการปล่อยภาพที่เกิดจากการสอดแนมเมื่อปลายปี 2561 และบอกเล่าให้ผู้ชมเข้าใจว่า น.ส.ณัฏฐารับเงินจากต่างประเทศมาเพื่อทำลายความมั่นคงของประเทศและล้มล้างสถาบัน ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งสิ้นนั้น ภายหลังนายมงคลกิตติ์ได้ทำการติดต่อพูดคุยยอมรับผิดและขอโทษแล้ว บุคคลทั้งสองเห็นตรงกันว่าควรจะมีการแถลงข่าวให้สาธารณชนรับทราบว่านายมงคลกิตติ์ได้กล่าวขออภัย และยอมรับว่าข้อความ ถ้อยคำที่กล่าวถึง น.ส.ณัฏฐาจนเป็นเหตุให้ฟ้องคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้นเป็นความเท็จและทำให้ได้รับความเสื่อมเสียต่อเกียรติยศ ชื่อเสียง และผลกระทบในด้านต่างๆ ในการนี้จึงเห็นสมควรที่จะยุติเรื่องที่เกิดขึ้นในทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วยการร่วมกันรณรงค์เพื่อหยุดการใส่ร้ายป้ายสีผ่านปฏิบัติการ...

ที่รัฐสภาแห่งใหม่ย่านเกียกกาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่ายว่า วันนี้เป็นการหารือเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยจะใช้เวลาประมาณ 28 ชั่วโมงครึ่ง หรือประมาณ 2 วันเศษๆ โดยตนและนายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะรองประธานรัฐสภา พยายามจะดูแลให้การประชุมเรียบร้อยและจบในตอนกลางคืน ซึ่งจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น. และจบที่เวลาประมาณ 24.00-01.00 น. สำหรับเวลาในการอภิปรายนั้น ฝ่ายรัฐบาลได้ 5 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าได้น้อย แต่ไม่เป็นไร เพราะสามารถปรับในทางปฏิบัติได้ ส่วนฝ่ายค้านได้ 13 ชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายใดลุกขึ้นประท้วงก็จะคิดเวลาของฝ่ายนั้นไป ใครที่เกเรยุคสมัยนี้ชาวบ้านจะเป็นผู้ตรวจสอบ ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) เวลา 07.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2562 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในพิธี จากนั้นในเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ณ...

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จัดงานสัมมนาพรรค เสริมศักยภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 21-22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยใช้รีสอร์ตที่มีปัญหาถูกจับว่าบุกรุกป่า ม.6 ต.ไทยสามัคคี เป็นสถานที่จัดงาน ความดังทราบแล้วนั้น สถานที่จัดงานดังกล่าวเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าเคยถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯเข้าจับกุมมาแล้วถึง 2 ครั้ง ข้อหาบุกรุกป่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 เนื้อที่ 20 ไร่ ต่อมาวันที่ 31 มีนาคม 2560 จับเพิ่มอีก 30...

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า การสัมมนาของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ อ.วังน้ำเขียว ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มาร่วมสัมมนาด้วยนั้น เป็นเรื่องการเตรียมความพร้อมการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 25-26 กรกฎาคม เพราะ พล.อ.ประวิตรเกี่ยวข้องในการแถลงนโยบายด้วย โดยได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ พล.อ.ประวิตรได้มาพบปะพูดคุยกับพวกเรา เพราะก่อนหน้านี้พรรคพลังประชารัฐยังไม่มีโอกาสได้พบปะหารือกับท่านเลย นอกจากนี้ตนได้มีโอกาสแสดงความเห็นและพูดคุยกับพี่น้อง ส.ส. ว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ แต่วันนี้เราได้เริ่มงานแล้ว เปรียบเสมือนแก้วที่ตกผลึกแล้ว สามารถนำมาใช้งานเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ แต่ก่อนที่จะมาเป็นแก้วมันคือเศษหินเศษดินทราย...

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานปิดการสัมมนาพรรคพลังประชารัฐว่า สำหรับการรับมือการอภิปรายแถลงนโยบายนั้นเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ วันนี้เพียงมาให้กำลังใจเฉยๆในฐานะผู้สนับสนุนพรรค ทั้งนี้ ไม่มีความกังวลใดๆในการแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อถามว่าได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ตอบ รอให้การอภิปรายแถลงนโยบายเสร็จสิ้นเสียก่อน เมื่อถามว่าหลังแถลงนโยบายจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่ตอบ เมื่อถามว่ากังวลที่ฝ่ายค้านจ้องอภิปรายประเด็นคุณสมบัติหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นการอภิปรายนโยบาย จะไปซักฟอกอะไร เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรเป็นหนึ่งในผู้ที่ฝ่ายค้านจ้องอภิปรายเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “คุณสมบัติผมเป็นอย่างไร คุณสมบัติผมครบ แล้วจะมาอภิปรายอะไร” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่แสดงออกถึงอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด